EverSolo Play CD Edition ศูนย์กลางไฮไฟทุกระบบครบถ้วน

EverSolo Play CD Edition ศูนย์กลางไฮไฟทุกระบบครบถ้วน

28/07/2025    734

EverSolo Play CD Edition
ศูนย์กลางไฮไฟทุกระบบครบถ้วน 

เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสจับต้องสัมผัสเครื่องเล่นสตรีมเมอร์แอมป์ ที่มีขนาดย่อมๆ แต่คุณสมบัติ “ล้นเครื่อง” หรือพูดจาภาษานักเลงเครื่องเสียง ก็ต้องบอกว่า ให้มาจนจุกแน่นเลย เพราะไม่เคยมีใครใส่คุณสมบัติแบบไม่ยั้งในราคาขนาดนี้ และการออกแบบอำนวยความสะดวกง่ายดายถึงขนาดที่ว่า ต่อกับลำโพงคู่เดียวก็กลายเป็นซิสเต็มระดับออดิโอไฟล์ทันที
  
EverSolo Play CD Edition จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีงามสำหรับนักเล่นเครื่องเสียง
      
ซึ่งแบรนด์ EverSolo นั้น เป็นบริษัทเครื่องเสียงชั้นนำในเครือ Zidoo Technology มีความเชี่ยวชาญด้านเสียง ซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ EverSolo มีความโดดเด่นทั้งด้านเสียง คุณภาพ และดีไซน์ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย 
      
ทีมวิจัยและพัฒนาของ EverSolo ครอบคลุมหลากหลายด้าน ตั้งแต่รูปแบบถอดรหัสเสียง (Audio Decoding), ระบบอนาล็อก, การปรับจูนเสียง ภาคขยาย การออกแบบสตรีมเมอร์ โดยมุ่งเน้นทั้งประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่แข็งแกร่ง

 


     
EverSolo CD Edition เป็นอีกหนึ่งในดีไซน์ที่โดดเด่นในแบบเครื่องสตรีมเมอร์แอมป์ ชนิด All‑in‑one ที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางการฟังเพลงในระบบดิจิตอลและอนาล็อกครบครัน โดยจุดเด่นหลักของ EverSolo CD Edition ที่ผมเคยรวบรวมนำเสนอไว้ อย่างน้อย 6 ประการ ที่ทำให้ตลาดเครื่องเสียงฮือฮาคือ
1. มีไดร์ฟ CD ของ Hitachi/LG CD-ROM มาในตัว พร้อมระบบ Rip ซึ่งสามารถเล่นเพลงจากแผ่น CD ได้โดยตรง หรือ Rip เป็นไฟล์ WAV/FLAC ลงหน่วยความจำภายใน USB หรือ NAS ได้สะดวก นี่คือทีเด็ดที่ยังไม่พบจากสตรีมเมอร์แอมป์อื่นๆ
    
2. มีภาคออดิโอคุณภาพสูง โดยใช้ชิป DAC AKM AK4493SEQ พร้อมภาคขยายคลาส D (PurePath Ultra HD Class-D amplifier) กำลังขับ 60 วัตต์ ต่อเนื่อง ที่ความต้านทาน 8 โอห์ม หรือ 110 วัตต์ ที่ความต้านทาน 4 โอห์ม ให้เสียงที่แม่นยำครบเครื่อง แม้ในห้องขนาดกลางถึงใหญ่  
    
สามารถรองรับไฟล์ Hi‑Res สูงถึง PCM 768 kHz/32‑bit และ DSD512 รวมทั้ง FLAC, WAV, APE, AIFF  
    
3. หน้าจอทัชสกรีน ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว เป็นหน้าจอ LCD สีความละเอียดสูง พร้อม UI ใหม่ สะดวกควบคุมทั้งแบบไม่ใช้มือถือ หรือจะใช้แอพ EverSolo Connect ในมือถือคอนโทรลก็ได้
   
4. ให้ระบบปรับแต่งเสียงอย่างมืออาชีพ อาทิ มีกราฟฟิกอีควอไลเซอร์ 15‑band และพาราเมติคอีควอไลเซอร์ 10‑band ช่วยปรับแต่งเสียงชดเชยสภาพอคูสติคห้อง หรือความชื่นชอบในสไตล์การฟัง  
   
5. เชื่อมต่อสตรีมมิ่งครบจบในเครื่องเดียว โดยรองรับการสตรีมทุกรูปแบบ  อาทิ TIDAL, Qobuz,  IDAGIO, Amazon Music, TuneIn Radio, Presto Music, KKBOX, Radio Paradise, Deezer รวมถึง Apple Music แบบ lossless 
    
มี Bluetooth 5.3 และยังรองรับ Tidal Connect, Qobuz Connect, Spotify Connect, Roon Ready, JPlay Certified อีกด้วย 

 


   
มีพอร์ต HDMI ARC/eARC เชื่อมต่อทีวี, optical/coaxial ดิจิตอล, USB OTG (รองรับ DSD512โดยดาวน์มิกซ์ เป็น pcm ก่อน)
   
แถมด้วย Phono input MM/MC, Sub‑out  อะไรจะปานนั้น
  
6. ออกแบบสวยงามและทนทาน ตัวเครื่องผลิตจากอลูมิเนียมสีดำด้าน โครงสร้างด้านใต้เครื่องมีแผงระบายความร้อนเต็มผืน พร้อม Signature RGB ring light และ VU‑meter แบบไดนามิก สำหรับการแสดงภาพเสียงแบบเรียลไทม์   
    
ทั้งหมดนี้ ราคาเพียง 26,900 บาท ดังนั้นผมไม่แปลกใจเลยว่า แค่เปิดสั่งจองล็อตแรกพรึ่บเดียวก็หมดไปจากตลาด‼️ ใครอยากได้ต้องรอล็อตต่อไปแล้วละครับ
  
เราได้ฟังได้ชมบางส่วนกันทาง Live เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม ทางเพจ วิจิตร บุญชู กันไปแล้วนะครับ จากนี้ไปคือผลทดสอบใช้งานจริง และบทสรุปสำหรับการตัดสินใจว่า EverSolo CD Edition นั้น คุ้มค่าเพียงใด

 

 

Test Report
ยอมรับตรงๆ ในทุกครั้งที่ใช้งานเครื่องเล่นสตรีมเมอร์ในระดับแนวหน้าทั้งหลาย ผมพบว่าตัวเองไม่สามารถที่จะใช้งานเครื่องได้ครบในทุกคุณสมบัติ อันเนื่องจากข้อจำกัดของผมเอง โดยเฉพาะในแง่ของระบบมัลติรูม การเชื่อมต่อเข้ากับระบบ Connect ไร้สายกับอุปกรณ์อื่นๆ ภายในบ้าน แต่เชื่อว่า สิ่งเหล่านี้ทุกท่านสามารถนำไปต่อยอดกับระบบที่มีอยู่ในบ้านของทุกท่านได้
   
ดังนั้นหลักๆ ของผมก็คือขออนุญาต นำเสนอเรื่องการใช้งานภาค Streaming ภาค CD และ Phono Stage ที่ถือว่า EverSolo CD Edition ให้มาแบบจัดเต็ม ทำให้เครื่องขนาดย่อม เล็กพริกขี้หนูแบบนี้ มีคุณสมบัติที่คุ้มค่าเกินราคาที่จ่ายไปมากเลยทีเดียว

และถึงที่สุดก็คือทุกคนคงอยากรู้ว่าคุณภาพหรือคุณสมบัติและคาแรกเตอร์ด้านเสียงนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งต่อไปนี้คือคำตอบครับ
  
แรกสุดการเชื่อมต่อทั้งแบบสาย Ethernet LAN และระบบ Wi-Fi ไร้สายทำได้ง่ายดาย ไม่ซับซ้อน มือใหม่ มือเก่าใครๆ ก็สามารถใช้งานได้ครับ แนะนำให้โหลดแอพพลิเคชัน EverSolo Control ใน App Store ลงโทรศัพท์มือถือ เพื่อสะดวกต่อการคอนโทรลระบบอย่างแท้จริงครับ จากการทดสอบใช้งานพบว่า การค้นหาเครื่องจากมือถือฉับไวและตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

 


  
รูปแบบการใช้งาน และการแบ่งฟังก์ชั่น รวมถึงความสามารถของหน้าจอทัชสกรีน อันนี้ถูกออกแบบมาอย่างเป็นระบบ ไม่มีความซับซ้อนใดๆ เพียงแค่คุณอาจจะต้องทำความคุ้นเคยวิธีการคอนโทรลหน้าจอในแต่ละส่วนสักระยะหนึ่ง ก็จะเข้าใจถึงองคาพยพทั้งหมดของเครื่องและสั่งงานได้อย่างสะดวกสบาย
  
แม้ว่าระบบฟังก์ชันบางส่วน อาจจะมีการซ้ำซ้อนอยู่บนหน้าปัดเดียว แต่ก็มีความง่ายดาย คือกลับมาเริ่มต้นที่ HOME แล้วมาไล่เลียงไปทีละสเต็ปได้ในทันที
  
การปรับการแสดงผลหน้าจอ และภาคสตรีมมิ่งจากผู้ให้บริการ 
แรกสุดกดปุ่มคอนโทรลหน้าเครื่องมุมขวาสุดค้างไว้ เพื่อ On ระบบ หรือ Off ระบบ
   
จากนั้น หน้าจอจะเริ่มทำงานแสดงผลให้เลือกสั่งการฟังก์ชั่นที่แบ่งไว้อย่างเป็นระเบียบ
ตามหัวข้อหลัก Music services, Functions, Apps, Connect, Cloud และ Setting ในขณะที่หน้าจอแสดงผลตรงช่วง Display เต็มหน้าจอนี้สามารถ Touch เลื่อนแบบสัมผัสไปได้เรื่อยๆ เหมือนหน้าจอมือถือ เมื่อนิ้วสัมผัสที่รูปแอพพลิเคชั่นบนหน้าจอ ก็จะนำเราสู่การ Play back ที่รวดเร็วมาก อันนี้ต้องถือว่ายอดเยี่ยม ให้ความรู้สึกสัมผัสที่คล่องมือจริงๆ

 


   
ยังแบ่งส่วนย่อยของหน้าปัดอีกหลายรูปแบบ เช่นคุณยังสามารถเลือก Display แสดงผลแบบกราฟฟิก หรือเข็มวียูได้เลยทั้ง 7 รูปแบบ

หน้าจอแบบ VU นี้ ทำให้รู้สึกว่าเครื่องมีความเป็นโปรเฟสชั่นแนล เรียกว่ายกระดับเหนือธรรมดา การเข้าไปปรับอีควอไลเซชั่น ทั้งแบบกราฟฟิก และพาราเมตริก ทำให้เราเกิดความรู้สึกเสมือนเป็นซาวด์อินจิเนียร์ ที่อยู่ในห้อง Control Room เลย และเสียงที่ปรุงโดยมือของคุณเอง สามารถเลือกได้ตามความพอใจ บางครั้งในส่วน EQ นี้ ก็จะช่วยปรับให้ทำงานร่วมกับลำโพงได้อย่างลงตัวมากยิ่งขึ้น  

อย่างน้อยที่สุดก็คือ ช่วยในการปรับการทำงานของเครื่องเพื่อให้เข้ากับสภาพ Acoustic แวดล้อมภายในห้องได้ดียิ่งขึ้นแน่นอน
  
ในภาคสตรีมมิ่งนั้น ทำงานคล่องตัวครับ เสมือนผมได้ใช้งานหน้าจอเมือถือ การผสานการทำงานของแอพหน้าจอกับ TIDAL Spotify และผู้ให้บริการเพลงสตรีมมิ่ง ที่ใช้เป็นแหล่งหรือคลังดนตรีที่มีให้เลือกสรรนับล้านเพลงไม่สิ้นสุดในการฟังเพลงแบบจริงจังแบบออดิโอไฟล์ ได้อย่างราบรื่นมากๆ
   
ยอมรับว่า สตรีมมิ่งยุคนี้ให้คุณภาพเสียงที่ดีมาก เห็นได้ถึงพัฒนาการของระบบส่งผ่านเพลงแบบ Streaming จากผู้ให้บริการต่างๆ ทำได้อย่างละเมียดละไมนุ่มนวล และครบถ้วนทุกรายละเอียด ถือเป็นการก้าวล้ำทางเทคโนโลยีที่อัพเกรดตัวเองขึ้นทุกปี
 
EverSolo Play CD Edition ให้แนวเสียงที่เข้าถึงง่าย อบอุ่นน่าฟัง นักฟังระดับออดิโอไฟล์จะต้องประทับใจครับ
   
เวลาส่วนใหญ่ในกิจวัตรประจำวันของผม เมื่อต้องการเพลิดเพลินไปกับเพลงที่เป็นแบ็คกราวนด์มิวสิค ผมก็จะเลือกโหมดเข้าถึงวิทยุอินเตอร์เน็ต ซึ่งเสมือนโลกทั้งใบที่เต็มไปด้วยดนตรีอันไม่มีที่สิ้นสุด นี่คือความสุขที่เปิดกว้างไร้ขีดจำกัด หลายสถานีทำให้เข้าถึงเพลงที่มีคุณค่าแตกต่างจากหลายแหล่งทั่วโลก

 


  
พอจะใช้ภาค CD แรกสุด ผมก็ยังงงๆ นะครับว่าแล้วช่องใส่แผ่นซีดีอยู่ตรงไหนหนอ? เพราะดีไซน์มาเรียบสะอาดตา แทบไม่มีจุดที่สะดุดตรงไหนเลย ที่สุดก็มาเห็นว่าด้านซ้ายของเครื่องจะมีถาดแผ่นซีดีแนบอยู่กับช่องด้านข้างนี่เอง ออกแบบยอดเยี่ยมครับ
    
ภาค CD - CD Rip เปิดโอกาสให้เราสามารถหรือเล่น PLAY - PAUSE - FF - REW ตามปกติเหมือนเครื่องเล่นซีดีโดยทั่วไปโดยสั่งการได้จากแอพในระบบโทรศัพท์มือถือ และคอนโทรลจากจอทัชสกรีน ทุกอย่างคล่องตัวมาก
     
แผ่นที่นำมาเปิดกับเครื่องสามารถอ่านรวดเร็วคล่องตัว อาจจะมีสะดุดได้บ้าง ถ้าเป็นแผ่นเก่าที่มีรอยลึกเสียหายไปถึงหลุม Pitch ข้อมูล ซึ่งโอกาสตรงนี้ก็จะเหมือนซีดีเพลย์เยอร์โดยทั่วไปนั่นเอง แต่เท่าที่ได้ทดสอบใช้งานนับว่าไร้กังวลใดๆ ครับ เพียงแต่ถาดใส่แผ่นค่อนข้างบาง ควรใช้มือประคองด้านใต้ ตอนที่กดแผ่นลงดุมกลาง
 
คุณภาพเสียงและรายละเอียดเสียงโดยเฉลี่ย ผมว่าทำได้ดีมาก แม้ไฟล์ซีดีจะเพียงแค่ 44.1 KHz แต่ก็ได้รายละเอียดเสียงและความสดใสเปิดโปร่งดีทีเดียว แต่หากเทียบเคียงเพลงจากสตรีมมิ่งอย่าง TIDAL ผมว่าฟังจากสตรีมมิ่งจะได้เวทีเสียงและความโอ่อ่าได้ดีกว่าเล่นแผ่นซีดีโดยเฉลี่ย
   
ส่วนระบบการ Rip เพลงนั้น ก็ถือว่าเป็นความง่ายดายนะครับ หลังจากคุณใส่แผ่นซีดีลงไปในช่องใส่แผ่นแล้ว ก็ไปที่ฟังก์ชันบนหน้าปัดที่ระบุ CD Ripper เมื่อเห็นไฟล์เพลงแล้วก็กด Rip ได้เลย ต่อแผ่นนั้นเฉลี่ย 4-5 นาที ก็ริปเพลงเรียบร้อยครับ
  
หลังจากนั้นแล้วให้เข้าไปที่เครื่องหมาย HOME กดที่ FILES จะพบหัวข้อ Storage เลื่อนหา Music จะเจอกล่อง CD ROM ทำการกดสัมผัสอีกครั้ง จะพบแทร็กเพลงที่เราริปไว้ จากนั้นก็สามารถเพลย์ได้อย่างง่ายเลยครับ
  
EverSolo ออกแบบไว้ให้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย และไม่ยากเลยสำหรับคนที่เริ่มต้นเล่นสตรีมมิ่งแอมปลิไฟร์เครื่องนี้ 
  
แต่สิ่งที่ผมค่อนข้างจะแปลกใจมากไปกว่านั้น ก็คือเพลงที่เรา Rip ลงไปในฮาร์ดดิสก์ภายในเครื่อง เมื่อฟังเปรียบเทียบเข้ากับแผ่นซีดีต้นฉบับ ผมว่ายากจะแยกออกนะครับว่าเสียงต่างกันอย่างไร? 
   
จึงถือว่าระบบการบันทึกเก็บเพลงในรูปของไฟล์นั้นมีคุณภาพที่สูงมาก อย่างน่าพึงพอใจ

 


   
ภาคปรีโฟโน นี่คือหนึ่งในทีเด็ดของ EverSolo Play CD Edition เพราะมีภาคขยายหัวเข็มแผ่นเสียง มาทั้งแบบ MM/MC ครบถ้วนไปเลย เท่าที่ได้ทดสอบก็จะพบว่า รายละเอียดเสียงและความอิ่มละมุนของอนาล็อกแผ่นเสียงทำได้อย่างน่าประทับใจ มีความเรียบสะอาดและปลอดจากสัญญาณรบกวนได้เป็นอย่างดี 
  
ต้องยอมรับนะครับว่าคุณภาพที่ได้เมื่อเปรียบเทียบกับราคาเครื่องที่เราต้องจ่ายออกไปนั้น มันเกินกว่าคำว่าคุ้มค่า เพราะว่า EverSolo Play CD Edition ไม่ได้กั๊กอะไรเอาไว้เลย ต้องไม่ถือว่าในส่วนของ Phono เป็น “ของแถม” ด้วยซ้ำ เพราะให้คุณภาพที่เทียบเคียงภาคปรีโฟโนในระดับราคา 20,000 - 30,000 บาทได้อย่างแน่นอน 
    
ผมไม่รู้ว่าผู้ผลิต เค้าให้คุณสมบัติต่างๆ มาอย่างดีเยี่ยมในเครื่องระดับ All-in-one แบบนี้ได้อย่างไร เรียกว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของเครื่องเล่นประเภทนี้ขึ้นมา และเป็นผลที่ทำให้ผู้ผลิตอื่นๆ อาจจะต้องนำไปขบคิด และพัฒนาเครื่องสตรีมเมอร์แอมป์ในอนาคตกันต่อไป
    
คุณสมบัติโดยรวมด้านเสียงของภาคปรีโฟโน EverSolo Play CD Edition นับว่าเป็นอีกฟังก์ชันหนึ่ง ซึ่งทำให้เราเกิดความประทับใจ เครื่องเล่นตัวย่อมๆ แบบนี้อย่างมาก โดยเฉพาะในแง่ความสะอาดของเสียง ให้ความเที่ยงตรงของต้นฉบับ ด้วยการคงความดีงามของแผ่นเสียงแต่ละอัลบั้ม หรือแผ่นเสียงแต่ละยุค ช่วยรักษาเอกลักษณ์เอาไว้ โดยที่ไม่มีการปรุงแต่งใดๆ ซึ่งก็ทำได้ดีจนแทบไม่อยากเชื่อภาคปรีโฟโนที่ดีจะมาอยู่ในเครื่อง Streaming Amplifier แบบนี้ครับ
  
มีข้อแนะนำประการหนึ่งที่อยากจะเรียนกับผู้ที่เป็นเจ้าของเครื่องว่า ให้ฟังในลักษณะ “แฟลตเรสพอนด์” ไปก่อนนะครับ คือผมหมายถึงว่าอย่าพึ่งไปปรับแต่งอีควอไลเซอร์ทั้งสองรูปแบบ ให้ปล่อยไว้ที่ Flat 
   
ควรฟังคาแรกเตอร์ของเสียงจากเครื่อง EverSolo Play CD Edition จนคุ้นเคยไปสักหนึ่งสัปดาห์ จากนั้นถึงค่อยมาปรับแต่ง ถ้าคิดว่าเรายังขาดหรือเกินอะไรในเรื่องของย่านความถี่ เพราะการปรับเสียงจะมีผลกระทบต่อเสียงแหลม กลาง ทุ้ม ท่านจึงควรสร้างความคุ้นเคยกับลักษณะเสียงที่จูนอัพมาจากโรงงานเรียบร้อยแล้วก่อน จากนั้นการปรับต่างๆ ในภายหลังก็จะเข้าใจและปรับได้ง่าย
   
ผมอาจจะไม่ได้มีเวลาทดสอบมากพอเพียง ที่จะนำไปใช้กับอุปกรณ์ไร้สายอื่นๆ เพื่อเชื่อมโยงกันในลักษณะการทำงานที่กว้างขวางในแบบมัลติรูม เพราะเครื่องมีฟีเจอร์ Customization เช่น Room Correction, EQ และ Multi‑room sync ซึ่งตรงนี้เป็นรูปแบบการใช้งานที่ผู้ซื้อหรือผู้ที่เป็นเจ้าของสามารถนำไปปรับใช้เข้ากับอุปกรณ์ของท่านที่บ้านได้อย่างง่ายดายและกว้างขวางครับ

 


  
บทสรุปการ Test Report ของผมที่มีต่อ EverSolo Play CD Edition ขอสรุปไว้ดังนี้ครับ
ออกแบบมาเป็นอุปกรณ์ครบวงจร ทั้ง CD, Streaming, DAC และ Amplifier ในตัวเดียว รองรับเสียงระดับ Studio ด้วย PCM สูงสุด 768kHz/32-bit และ DSD512
  
การใช้งานลื่นไหล ราบรื่น คล่องตัวผ่านจอทัชสกรีน และแอพพลิเคชั่น พร้อมทั้งมี UI ที่ทันสมัย

มีฟีเจอร์ EQ และ Room‑correction ช่วยปรับแต่งให้เข้ากับห้อง รองรับ Multi‑room และ Wake‑on‑LAN
     
คุณภาพเสียงและคาแรกเตอร์โดยรวมนั้นก็คือความเรียบง่าย อบอุ่น สะอาดและละเมียดละไม เสียงแบบผู้ดีๆ ไม่ใช่เครื่องที่ทรงพลังดุดัน แต่กำลังขับคลาส D ระดับ 60 วัตต์ ก็พอเพียงต่อการใช้งาน ดังนั้นจึงแนะนำให้ใช้ภายในห้องที่มีขนาดย่อมๆ หรือมุมฟังเพลงโปรดภายในบ้าน โดยมีลำโพงประเภท Bookshelf ที่มีความไวปานกลางถึงสูง อาทิ AE100 mkll , ELAC Debut B-6.2 , Wharfedale Diamond 12.0 , PSB Alpha P5 เป็นต้น 
   
นี่คือเครื่องเสียงยุคใหม่แบบ All‑in‑one ที่ไม่ต้องต่ออุปกรณ์หลายตัว และเหมาะกับผู้มีแผ่น CD และต้องการระบบ Rip/CD playback ถ่ายโอนทันทีอย่างคล่องตัว 
   
EverSolo Play CD Edition เป็นจุดรวมหรือศูนย์กลางไฮไฟทุกระบบครบถ้วน ในขนาดกะทัดรัด หน้าจอดินเพลย์แสดงผลคลาสสิกสวยงาม ทั้งปกอัลบั้ม วียูมีเตอร์ ดิสเพลย์กราฟฟิกที่เลือกใช้งานได้อย่างจุใจอย่างไม่มีใครเสมอเหมือน เป็นต้นแบบของเครื่องเสียง All‑in‑one ขนาดย่อมที่มีฟังก์ชันให้ใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพเกินพอ รวมทั้งภาคกำลังขับแบบคลาส D ที่ถือว่าพอเพียงสำหรับการใช้งาน และทุกสิ่งนั้นให้มาอย่างคุ้มค่าอย่างชนิดที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

หมายเหตุ: เปิดรับจอง Pre-order EverSolo Play CD Edition รอบที่ 3 ในราคาพิเศษ 26,900.- บาท มัดจำล่วงหน้าเพียง 5,000 บาทเท่านั้น สินค้าจะมาราวต้นเดือนสิงหาคม

สนใจสอบถามรายละเอียดและโปรโมชั่นได้ที่ DISCOVERY HIFI  โทร. 085 517 8292