HEGEL H400 อินทีเกรเต็ดสตรีมมิ่งไฮเอนด์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2025

HEGEL H400 อินทีเกรเต็ดสตรีมมิ่งไฮเอนด์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2025

26/04/2025    231

HEGEL H400
อินทีเกรเต็ดสตรีมมิ่งไฮเอนด์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2025

      
ผลิตภัณฑ์จากนอรเวย์ แบรนด์ HEGEL ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1988 ที่มหาวิทยาลัยเทคนิคในเมืองทรอนด์เฮม ประเทศนอร์เวย์ ปัจจุบัน HEGEL เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในตลาดเครื่องเสียงไฮไฟระดับสูง
       
ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจำหน่าย ได้แก่ อินทีเกรเต็ดแอมป์  ปรีแอมป์ และเพาเวอร์แอมป์ รวมถึง DAC ที่ล้ำสมัยที่สุด โดยมีตัวแทนและผลิตภัณฑ์ของบริษัท HEGEL จำหน่ายทั่วโลก ได้รับรางวัลและบทวิจารณ์ที่ดีจากสื่อต่างๆ เป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเองอย่างมากมาย
    


H400 เป็นอินทีเกรเต็ดแอมปลิไฟร์ที่มีภาคขยาย Class AB ซึ่งให้พลังงานล้นเหลือ 250 วัตต์ 8 โอห์ม และมีความสามารถขับโหลดที่เสถียรจนถึง 2 โอห์ม ด้วยความน่าทึ่งนี้ H400 จึงมีสมรรถนะในการควบคุมลําโพง ทั้งแม่นยําและค่าไดนามิกเร้นจ์อย่างสุดยอด 
     
ด้วยโครงสร้างโมโนบล็อกคู่บนแท่นเดียวกันของ H400 และวงจรเแบบสมมาตร ทําให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพการแยกแยะทุกรายละเอียดเสียงที่เหนือกว่าแอมปลิไฟร์ธรรมดาทั่วๆ ไป
   
ในขณะที่เทคโนโลยี SoundEngine 2 ของ HEGEL ให้การแก้ไขความผิดเพี้ยนได้อย่างฉับพลันทันทีระหว่างการขยายสัญญาณ ส่งผลให้ได้มาซึ่งเสียงที่เต็มไปด้วยละเอียดและฉับไว มอบทั้งพลังหนักแน่น รายละเอียดเสียงที่ละเมียดละไม และความเที่ยงตรงระดับมอนิเตอร์ในทุกความถี่เสียง
    
การออกแบบ H400 ยังคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน โดยใช้พลังงานน้อยที่สุด ในขณะที่ให้ประสิทธิภาพระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะตัวดังกล่าวนี้ 
    
และคุณสมบัติสแตนด์บายอัตโนมัติของเครื่องขยาย ช่วยลดความสิ้นเปลืองพลังงานได้เป็นอย่างดี คือเมื่อเราเปิดทิ้งไว้ แล้วเครื่องไม่ได้รับสัญญาณขยายเป็นระยะเวลาหนึ่ง ระบบก็จะกลับไปสู่โหมดStandby ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียพลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยไม่กระทบต่อคุณภาพเสียง
    
แม้จะเป็นแอมป์ที่มีภาพขยายพลังสูงมากถึง 250 วัตต์ ต่อช่องเสียง แต่วิศวกรผู้ออกแบบ คํานึงถึงความเรียบง่ายและการใช้งานที่ใช้งานที่สะดวก ดังนั้น H400 จะมีรูปทรง และด้านหน้าดิสเพลย์ที่เพรียวบางแต่แข็งแกร่ง พร้อมลูกบิดอเนกประสงค์สองปุ่มสําหรับการเลือกแหล่งโปรแกรม และการควบคุมระดับเสียง รวมถึงยังสามารถกดปุ่มเพื่อปิดเสียง หยุดชั่วคราว หรือนําทางเมนูอุปกรณ์ได้อีกด้วย 
    
จอแสดงผลดิสเพลย์กลางเครื่อง มีความชัดเจน และอ่านง่ายจากระยะไกล แสดงเฉพาะข้อมูลที่จําเป็นเท่านั้น เพื่อรักษารูปลักษณ์ที่สะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย 
    
ความแปลกแตกต่างคือ มีสวิตช์ปุ่มเปิดปิดอยู่ใต้เครื่องขยายเสียงด้านหน้า เป็นดีไซน์ที่สุขุมรอบคอบ ออกแบบที่โดยคำนึงถึงการใช้งานจริงนี้ทําให้มั่นใจได้ว่าไม่มีอะไรมารบกวนความสวยงามของการตั้งค่าเสียงต่างๆ ขณะใช้งาน

 


        
H400 นําเสนออินพุตแบบอนาล็อกและดิจิตอลอย่างครอบคลุม ทําให้มั่นใจได้ถึงความเข้ากันได้อย่างราบรื่นกับแหล่งเสียงต่างๆ พลังขยายที่เหนือชั้น ให้ทั้งรายละเอียด และการควบคุมที่น่าประทับใจ หมายความว่าคุณสามารถเชื่อมต่อลําโพงใดก็ได้ แม้แต่ลําโพงที่ขับยากมากๆ
     
ด้วยการตรวจจับสัญญาณอัตโนมัติ H400 จะจดจําแหล่งสัญญาณเสียงดิจิตอลที่เชื่อมต่ออยู่ทันทีและเปลี่ยนเป็นอินพุตที่ถูกต้อง ทําให้ไม่จําเป็นต้องเลือกด้วยตนเอง อินพุตทั้งหมดสามารถตั้งค่าที่ระดับเสียงสูงคงที่ ทําให้สามารถใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์หลายห้องได้ 
    
ยังมีฟังก์ชั่นรีโมตทีวี ที่ให้คุณใช้รีโมตทีวีเพื่อควบคุมเครื่องขยายเสียงได้อีกต่างหาก มีผลต่อการตั้งค่าความบันเทิงในบ้านของคุณให้ใช้งานง่ายขึ้น
     
ด้านเน็ตเวิร์ก H400 ได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อความคล่องตัว โดยรองรับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยอดนิยม เช่น AirPlay, Spotify Connect, Roon Ready, Tidal Connect, Google Cast และ UPnP ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องขยายเสียงผ่านบริการเหล่านี้ได้โดยตรง 
       
นอกจากนี้ แอป Hegel Control ยังให้การควบคุมระดับเสียง อินพุต และการเข้าถึงวิทยุอินเทอร์เน็ต พอดคาสต์ รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ด้านสื่อ ช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานโดยรวม ไม่ว่าคุณจะสตรีมเพลย์ลิสต์โปรดของคุณ หรือสํารวจพอดคาสต์ใหม่ H400 นั้นจะทําให้ง่ายและสนุก
   
H400 รองรับเสียงหลายห้องผ่าน Roon, AirPlay และ Google Cast ทําให้สามารถเล่นเพลงแบบซิงโครไนซ์ในพื้นที่ต่างๆ ในบ้านได้อย่างคล่องตัว ลองนึกภาพการมีเสียงคุณภาพสูงแบบเดียวกันในทุกห้อง ที่หลอมรวมเข้ากับระบบบ้านอัจฉริยะได้อย่างราบรื่น 

 


    
ภาค DAC ในตัวเอง ระบบ Bit-Perfect DAC ที่ยึดพื้นฐานมาจากรุ่น H600 ที่ใช้ Bit-Perfect DAC เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด หลายคนอาจจะอยากทราบว่า ใช้ชิปเซ็ตพื้นฐานของอะไรมาขยายขอบเขตการทำงานในวงจร
   
ซึ่งตามปกติภาค DAC ของ HEGEL จะใช้ของ AKM 
    
อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญของชิปสำเร็จรูป เป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งของวงจรส่วนร่วมในการดีไซน์ทางภาคดิจิตอลอื่นๆ ที่สำคัญ รวมทั้งภาคจ่ายไฟอิสระ ที่ถูกออกแบบเฉพาะวงจรของ DAC อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ในชื่อ Bit-Perfect DAC 
  
ตัวเครื่องมาพร้อมรีโมตคอนโทรลขนาดย่อม พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานครบถ้วน
  
HEGEL H400 ได้รับรางวัล เครื่องขยายเสียงสตรีมมิ่งพรีเมียม EISA 2024 - 2025 เป็นการันตี ที่มั่นใจได้ในความเชื่อมั่นผลิตภัณฑ์ในระดับสากล

 


   

ผลการทดสอบใช้งาน
    
หลักๆ แล้วผมจะเล่นเพลงสองรูปแบบด้วยกันคือ แผ่นซีดี และใช้ภาค DAC ในตัว H400 เนื่องจากระบบของเครื่องไม่มีภาคปรีโฟโนสำหรับแผ่นเสียง แต่สนองตอบภาคไลน์ อินพุต - ดิจิตอลอินพุต หลายช่องต่อ (ส่วนตัวผมจะใช้ช่องต่อ Coaxial) และการเชื่อมต่อ Ehernet LAN เพื่อการสตรีมมิ่ง
      
ขอกล่าวถึงการใช้งานภาคสตรีมมิ่งก่อนนะครับ
   
ผมเริ่มเล่นระบบเน็ตเวิร์กในเครื่อง HEGEL H400 โดยดาวน์โหลด แอปพลิเคชั่น Hegel Control จากแอพสโตร์มาใช้ในไอโฟน 15 Pro Max เพื่อเชื่อมระบบสั่งงานระบบปฏิบัติการของเครื่อง H400 
     
แค่เปิดแอปในมือถือ ก็เชื่อมต่อกันกับตัวเครื่อง H400 อัตโนมัติฉับไว สนองตอบได้ดี เหมือนแค่พริบตาเดียวเท่านั้น ก็ไม่มีอะไรให้ต้องรอ หรือเสียเวลาเซ็ตอัพใดๆ
    
จริงอยู่ว่า จอดิสเพลย์ H400 ไม่มีการแสดงผล ปกอัลบั้มเพลงสวยๆ (ต้องดูจากหน้าจอมือถือ หรือ แท็บเล็ตแทน) แต่ก็มีผลด้านคุณภาพในการทำงานที่ต้องยอมรับ แบบว่าคุณภาพเนื้อๆ กันไปเลย
    
ส่วนตัวผมชอบเลือกเล่นวิทยุอินเทอร์เน็ตก่อน เพราะท่องดนตรีทุกรูปแบบไปได้อย่างมีอิสระเสรีรอบโลกใบนี้ อย่างไร้ขีดจำกัด!!!
      
ฟังข่าวสาร ฟังดนตรี เพลงหลากรสชาติแบบอิ่ม แน่น ละมุนละไม และโอ่อ่า ทรงพลังเลยทีเดียว และที่แน่ๆ ช่วงฟังเพลงที่จริงจังจะยืนพื้นที่การเชื่อมต่อ TIDAL ทำให้เราฟังเพลงที่ชอบเพลิดเพลินทั้งคุณภาพดุจเดียวกับซีดี หรือไฮเรสออดิโอ 
   
วิทยุอินเตอร์เน็ต ส่วนมากผมจะชื่นชอบสถานี BBC2 เป็นพิเศษ วันไหนไม่รีบร้อนอะไร ก็จะนั่งฟังแต่เช้ายันค่ำ มีเพลงดีๆ ให้ฟังมากมาย

 


     
ในประสบการณ์เล่นแอมป์ Streaming ผมเริ่มจับทางบางประการได้ว่า หากเราค่อยๆ ไต่ระดับ เล่นเครื่องสตรีมเมอร์แอมป์มาเรื่อยๆ และพบเครื่องที่มีคุณภาพสูงจริงๆ แล้วละก็ คุณจะได้เห็นความแตกต่างของเครื่องสตรีมเมอร์ระดับไฮเอนด์ ที่มีระดับคุณภาพและราคาสูงกว่าเครื่องทั่วๆ ไปได้ไม่ยากครับ
     
ความมีคุณภาพสูงของเครื่องตรงไหน จะแสดงออกให้เราจับสังเกตง่ายที่สุด?
    
นั่นคือ การแยกแยะ และการแสดงบุคลิกแนวทางของเพลงต่างอัลบั้ม ต่างสตูดิโอที่บันทึกเสียงอันหลากหลายนั้น จะต้องมีรสชาติที่ต่างกันไปตามต้นทางหรือสตูดิโอที่มาครับ 
     
คือจะไม่ให้เสียงเรื่อยๆ มาเรียงๆ แบบว่าฟังเพลงสไตล์ไหน ค่ายใด บุคลิกเสียงก็เหมือนกันเสียทุกค่าย ทุกอัลบั้ม 
   
แหละนี่คือจุดชี้ว่า เราเล่นสตรีมมิ่งมาถึงระดับไหนครับ
   
HEGEL H400 แม้จะมีราคาสูงเมื่อเปรียบเทียบแอมป์สตรีมมิ่งอื่นๆ อยู่บ้าง แต่เครื่องรุ่นนี้ ระดับนี้ จะนำพาคุณสัมผัสการเรียนรู้ธรรมชาติเสียงดนตรีอย่างชัดแจ้ง 
     
เข้าถึงความสมจริง ความแตกต่างในคาแรกเตอร์ ของการบันทึกเสียงเพลง จากแต่ละค่ายเพลง ได้เป็นอย่างดี 
     
นี่คงเป็นการพิสูจน์ว่า การได้รับรางวัล Best Product EISA AWARD 2024-2025 ย่อมมีคุณภาพครบถ้วนในมาตรฐานสูงสุดจริงๆ
   
ในส่วนการใช้งานอินพุตจากภาคไลน์ ผมใช้เครื่องเล่น SACD ต่อใช้งานสลับกันระหว่างเสียงที่ได้จากแผ่น CD-SACD ทางช่องไลน์อินพุต และเลือกช่อง Coaxial เพื่อการทดสอบภาค DAC ของH400 เปรียบเทียบกันไปด้วยในตัว
   
• ภาค DAC ของ H400 มีจุดเด่นที่ความปลอดโปร่ง ความสะอาดของเสียง สามารถสนองตอบ ดิจิตอลออดิโอได้ครบถ้วนมาก รวมถึงถอดรหัสของเพลงสตรีมมิ่ง อาทิ 24/192, DSD64 (DoP), เล่นแผ่น MQA หรือฟังสตรีมมิ่งจาก TIDAL จะเห็นผลด้านรายละเอียดเสียงที่ระยิบระยับในทุกรายละเอียด ส่วนทางช่องออพติคัลก็ให้การถอดรหัสเท่าเทียม Coaxial ครับ
   
กรณีนำไฟล์เพลงไฮเรสจากสตอเรจฮาร์ดดิสก์ หรือNAS เพลงที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์มาต่อเล่นทาง USB จะตอบสนอง ไฟล์เพลงได้สูงถึง 32/384, DSD256 (DoP) เรียกว่าเก็บได้ทุกรายละเอียด ที่ทางHEGEL H400 มีรองรับครบเครื่องจริงๆ 
   
ดังที่กล่าวไว้เสมอว่า ตัวผมมักจะเล่นเพลงจาก TIDAL เป็นหลัก ในไฟล์ที่สตรีมจากผู้ให้บริการรายนี้ คิดว่ามันดีเยี่ยมพอเพียงกับความเป็น High-Fidelity โดยเฉพาะเมื่อฟังเพลงที่รายละเอียดระดับสูงสุด (MAX) รวมทั้ง MQA ทำให้เราเข้าถึงเบื้องลึกดนตรีไฮเรส ที่มีรายละเอียดมากกว่าฟังแผ่นซีดี ในหลายๆ อัลบั้ม
   
ด้วยคุณสมบัติของเครื่อง HEGEL H400 นั้น สนองตอบได้อย่างดีงามและคุ้มค่าที่สุด คือถ้าเราดูจากคุณค่า ที่แยกออกเป็นสามองค์ประกอบหลัก จะเห็นภาพได้ชัดว่า H400 เป็นสตรีมมิ่งแอมป์ ที่เกินคำว่าคุ้มค่าจริงๆ
   
- ภาคขยายดูอัลโมโน 250วัตต์ต่อแชนแนล ที่ขับลำโพงทุกคู่ได้อย่างหมดจด 
- ภาค DAC ที่เสียงสะอาดมากๆ จนแทบนึกไม่ออกว่าเคยฟัง DAC ในแอมป์รุ่นไหนที่จะให้เสียงได้ดีเยี่ยมขนาดนี้มาก่อน
- ภาคเน็ตเวิร์กสตรีมมิ่งที่คล่องตัว แม่นยำ เสียงอิ่มเอม สนองตอบการใข้งานอย่างกว้างขวาง กระทั่งผมเองยังใช้งานได้ไม่หมดด้วยซ้ำ   

 

 

บทสรุป 
   
1. เชื่อมต่อระบบเน็ตเวิร์กได้อย่างง่ายดาย ยอดเยี่ยม ไม่ต้องไปเสียเวลาเซ็ตอัพอะไรทั้งสิ้น ทำให้เราเข้าถึงวิทยุอินเทอร์เน็ตและพอดแคสต์ได้ทันที และผ่าน UPnP ไปยัง NAS ทั้งมีปุ่มสำหรับควบคุม Apple AirPlay และ Google Chromecast ปุ่ม "Spotify" จะนำเราไปที่หน้าจอข้อความพร้อมคำแนะนำในการเลือก H400 เป็นสัญญลักษณ์รูป "ลำโพง" ในแอป Spotify แล้วเปิดใช้งาน Spotify Connect รวมถึงเปิดการเชื่อมต่อแอป TIDAL ง่ายดุจพลิกฝ่ามือ
     
ในฐานะสตรีมเมอร์นับว่า ทำงานได้เป็นเลิศ คุ้มค่าทุกวินาทีที่ใช้งาน ให้ความใกล้เคียงรุ่นใหญ่อย่าง H600 ในหลายส่วนเลยทีเดียว

2. ภาคขยายคลาส AB ที่มีเทคโนโลยี SoundEngine 2 ให้พลังและรายละเอียดที่เป็นเสียงธรรมชาติ และสามารถรับอัตราการพีคแรงๆ ของดนตรีได้อย่างไร้ความผิดเพี้ยน ผมชอบบุคลิกที่อิ่มละมุนและพร้อมจะส่งผ่านไดนามิคเร้นจ์ จากแผ่วเบาถึงอัตราสะวิงของเสียงที่สูงสุด อย่างแม่นยำ 
   
ในฐานะภาคขยาย จะให้ทุกรายละเอียดครบถ้วน แม้แต่ปลายเสียงแหลมสุด จนถึงช่วงเสียงต่ำลึก เอาเป็นว่า ถ้าลำโพงคุณดีพอ จะได้ยินเสียงเบสอย่างอิ่ม หนักแน่นมีคุณภาพครบถ้วนโดยไม่ต้องพึ่งพาซับวูฟเฟอร์
  
อีกทั้งเป็นภาคขยายที่มีแบนด์วิธกว้างมากๆ อย่างเหลือเชื่อเลยทีเดียว
     
จากประสบการณ์ของผม ภาคขยาย HEGEL H400 อาจจะสมบูรณ์แบบกว่า ปรี-เพาเวอร์หลายชุดเลยครับ 
    
แค่ภาคขยายเสียงอันยอดเยี่ยม ก็ทำให้เราเข้าถึงเพลงทุกสไตล์ได้อย่างไม่มีขีดจำกัดนี้ ก็ถือว่าคุ้มราคาแล้วละครับ

3. ในการฟังทั้งสตรีมมิ่ง และจากช่องไลน์อินจากแผ่น CD-SACD ให้คุณภาพเสียงที่เต็มไปด้วยรายละเอียดความสมูทนิ่มนวลต่อเนื่อง ผมชอบตรงที่ว่า จะไม่มีขีดจำกัดในเรื่องของสไตล์เพลง ให้โทนเสียงช่วงมิดเร้นจ์ เสียงความถี่กลางมีเสน่ห์ ไหลลื่น
  
ไม่ต้องถามว่าเหมาะสมที่จะฟังเพลงประเภทใดเพราะทุกสิ่งที่คุณอยากฟัง คุณจะได้ฟังเต็มอิ่ม
     
คือเราสามารถฟังตั้งแต่ ไลท์มิวสิก คันทรี พ็อพ แจ๊ส ไปจนถึงคลาสสิก ให้เสียงที่เปิดกว้างแต่ก็สะอาดและนิ่มนวล เต็มไปด้วยรายละเอียดที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะเพลงร้องทำให้เราหลงใหลเสียงหวานๆ จากศิลปิน ใน HEGEL H400 อย่างง่ายดายเลยทีเดียว

สำหรับการต่อแหล่งโปรแกรมภายนอก จุดที่เด่นอย่างมากก็คือการใช้ DAC ของ H400 เพราะรายละเอียดที่สมบูรณ์แบบของภาคแปลงรหัสดิจิตอล มาสู่อนาล็อก นับว่าทำได้ดีงาม ในทุกๆ รายละเอียดเสียง 
    
เป็นภาค DAC ที่ให้ฮาร์โมนิคเสียงอิ่มฉ่ำจริงๆ ครับ ตรงนี้เองที่ยิ่งทำให้ H400 เกินคำว่า “คุ้มค่า” อย่างมากที่สุด เป็นภาค DAC ที่ทำให้เราลืมความเป็นดิจิตอลหรืออนาล็อกไปได้เลย

4. คุณสมบัติด้านบุคลิกเสียง ศักยภาพเสียงเต็มไปด้วยรายละเอียด มีความเที่ยงตรง ละเมียดละไมสูงมาก ในทุกระดับความดัง สลับลำโพงมาทดลองใช้หลายคู่ ไม่มีคู่ไหนที่ HEGEL H400 จะขับไม่ออก ล้วนแต่สร้างความสมบูรณ์เต็มสเกลเสียงทั้งสิ้น
   
เมื่อมองจากโครงสร้างภายนอก หน้าตาดูจืดๆ ที่มีแต่ความเรียบง่าย ไม่โดดเด่นสะดุดตานี้ ทว่าภายในกลับบรรจุวงจรแน่นเอี้ยด ด้วยคุณสมบัติที่ดีเลิศของ ภาคขยายดูอัลโมโน, DAC ตัวแปลงรหัสระดับไฮเอนด์, สตรีมเมอร์ที่มีปฏิบัติการครบถ้วนที่สุด เหมือนเครื่องเสียง ทรี-อิน-วัน ที่สรรสร้างเสียงดนตรีให้เราประทับใจในคุณภาพเสียงอย่างแท้จริง
    
HEGEL H400 สมศักดิ์ศรีของสตรีมมิ่งแอมปลิไฟร์ รางวัล Best Product EISA AWARD 2024-2025 ที่คุณควรพิจารณาหาประสบการณ์ ก่อนตัดสินใจก้าวสู่สตรีมมิ่งแอมป์ ระดับไฮเอนด์ครับ
   
HEGEL H400 มีราคาต่อเครื่องอยู่ที่ 229,000.- บาท 
    
สนใจสอบถามรายละเอียดและโปรโมชั่นได้ที่ DISCOVERY HIFI  โทร. 085 517 8292