KEF Q11 META ความลงตัวพอดี กับดนตรีทุกสไตล์
ลำโพง KEF Q11 META รุ่นใหม่ล่าสุด ถือเป็นผลรวมของเทคโนโลยีลำโพงที่นำมาจากรุ่นซูเปอร์ไฮเอ็นด์ Blade และ The Reference Series ถ่ายทอด DNA มาสู่ Q Series ได้เหมาะเจาะลงตัว ด้วยลำโพงรูปทรงทาวเวอร์ที่มีส่วนสูงหนึ่งเมตรเศษ หรือ 41.8 นิ้ว หน้ากว้าง 8.3 นิ้ว แต่ลึกถึง 15 นิ้ว
ดีไซน์ มีฐานรองยื่นออกมาสี่มุม สำหรับประกอบจับยึดกับตัวตู้ พร้อมสไปก์ยาง ที่ปรับระดับได้ ตู้ระบบท่อเปิด Bass Reflex ออกด้านหลัง มีฟองน้ำสำหรับปิดท่อมาให้ลำโพงเป็นตู้ปิดได้ หากต้องเซ็ตอัพในพื้นที่ห้องที่มีข้อจำกัด หรือผนังด้านหลังชิดลำโพง
สิ่งที่แปลกและเบสิกอย่างยิ่งคือ KEF ใช้ขั้วลำโพง Single Wired โดยมีนัยยะว่า ลำโพงตั้งพื้น Q11 META เหมาะกับการขับเสียงแบบราบรื่นด้วยแอมป์และสายต่อเพียงชุดเดียวพอเพียงแล้ว
นี่เป็น Q Series ที่ออกแบบให้เป็นระบบลำโพงตั้งพื้น 3 ทาง (รุ่นเรือธง) เพื่อประสิทธิภาพที่ดื่มด่ำในห้องขนาดใหญ่และโฮมเธียเตอร์ มาพร้อมไดรเวอร์ Uni-Q เจเนอเรชั่นที่ 12 ซึ่งพัฒนาถึงขีดสุด พร้อมเทคโนโลยี MAT
ใช้ไดรเวอร์ขับเสียงเบสอะลูมิเนียมไฮบริดขนาด 6.5 นิ้ว จำนวน ถึง 3 ตัว เรียงกันในแนวดิ่งช่วยให้ถ่ายทอดเพลงและภาพยนตร์ด้วยรายละเอียดที่ประณีต เบสที่ทรงพลัง และความลึกอิ่มกับเพลงทุกสไตล์ที่เราชื่นชอบ อย่างไร้ขีดจำกัด
นอกจากใช้ Uni-Q เจเนอเรชั่นที่ 12 ร่วมกับเทคโนโลยี MATแล้ว นี่ยังเป็นโครงสร้างตู้แบบ Flexible Decoupling ช่วยลดการส่งผ่านการสั่นสะเทือนที่เป็นส่วนเกินได้เป็นอย่างดี
ดังที่ผมเรียนไว้ในคลิปวิดีโอก่อนหน้านี้ KEF แก้ปัญหาที่ไดรเวอร์มักจะขับเสียงโดยมีมุมกระจายเสียงปะทะหน้าตู้ตัวเอง ด้วยการเพิ่ม Shadow Flare เปรียบเสมือนวงแหวนท่อนำเสียงรอบๆ Uni-Q อีกชั้นหนึ่ง ป้องกัน ดิฟเฟรคชั่น หรือการเลี้ยวเบนทางเสียง
KEF พัฒนาครอสโอเวอร์ใหม่เน้นการตอบสนองทั้ง on-axis และ off-axis ที่มีการทดสอบนับพันๆ ครั้ง เพื่อให้จุดตัดความถี่มีความแม่นยำและทำให้ตัวขับเสียงทุกตัว สามารถผลักอากาศได้อย่างสมูท และเป็นเสมือนหน่วยเดียวกัน ซึ่งจะมีผลต่อโทนัล บาลานซ์ที่ดีเลิศ
เป็นลำโพงที่ทางผู้ผลิตแจ้งผลการตอบสนองความถี่ไว้ที่ 44Hz - 20kHz และมีความไวอยู่ที่ 89dB SPL อีกทั้งเป็นลำโพงไม่กี่คู่ในแวดวงไฮไฟ ที่ระบุค่าความเพี้ยนโดยรวมต่ำกว่า 1% ตลอดย่านความถี่ตอบสนอง นับว่ามีความสมบูรณ์แบบอย่างมาก
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ควรทราบก็คือ ลำโพงนั้นมีค่าความต้านทานเฉลี่ยอยู่ที่ 4 โอห์ม จึงไม่เหมาะที่จะนำลำโพงคู่นี้ไปต่อขนานหรือพ่วงกันกับลำโพงคู่อื่นๆ ข้อดีคือ เป็นลำโพงที่ไม่ได้กินกำลังขับอย่างที่คาดเอาไว้แต่อย่างใด ทำให้พลังเสียงออกมาได้อย่างเต็มที่ แม้แอมปลิไฟร์นั้นจะมีกำลังขับแค่ปานกลางโดยทั่วไปก็ตาม
จากการทดสอบฟังในระยะหนึ่งสัปดาห์ โดยใช้เวลาในการเบิร์นก่อนหน้า 5-6 วัน เพื่อให้ครบ 150 ชั่วโมง พบว่าเป็นลำโพงที่มีองค์ประกอบประณีต มีบุคลิกของความนุ่มนวล ทรงพลัง ให้เวทีเสียงกว้างลึกดีมาก เปรียบเทียบงบประมาณราคา 95,900.- บาท/คู่แล้ว นับว่าคุ้มค่ามาก สำหรับผู้ที่ฟังเพลงอย่างหลากสไตล์ หรือนำไปใช้เป็นคู่หน้าในระบบ Home Theater
KEF Q11 META ลำโพงมีให้เลือกผิวตู้ สามสี คือ ขาว ดำ และ ผิววอลนัต พร้อมกริลล์แบบตะแกรงโลหะอ่อนแมตช์กับสีตู้
เนื่องจาก KEF Q11 META ได้รับการทดสอบ หรือรีวิวจากสื่อหลายสำนักทั้งในประเทศ ต่างประเทศ มีความน่าสนใจและได้รับคอมเมนท์ชื่นชมมากมาย ซึ่งทุกท่านสามารถหาอ่านได้ในสื่อโซเชียล สำหรับการทดสอบของผมนั้น ให้ถือเป็นอีกแง่มุมหนึ่ง ที่ใช้ทั้งเครื่องสตรีมเมอร์ เครื่องเล่นแผ่นเสียง ซีดีเพลย์เยอร์ สำหรับสรุปผลการทดสอบในทางปฏิบัติ ซึ่งมีซิสเต็มอ้างอิงดังต่อไปนี้
- NAD C3050 + NAD M23 Power
- Audio Innovation 500 series
- FMj 300 B
- Hattor Audio Ultimate Preamplifier
- Hattor Audio Ultimate Mono Power Amp
- Aurender A1000 Streamer DAC
- Denon DCD 2500NE SACD
- NAD C588 Turntable
- Life Audio LD5 MK II
Review
ก่อนถึงบทสรุปทดสอบในเรื่องคุณภาพเสียงที่ผมจะแสดงไว้เป็นข้อๆ เพื่อความกระชับเข้าใจง่าย ขอกล่าวถึงจุดเด่นในแนวทางการออกแบบที่ KEF พัฒนา Q Series มาจนถึงความสมบูรณ์สูงสุดในปัจจุบัน ที่ผมรู้สึกประทับใจ กับผลของเสียงที่สมบูรณ์ก็คือ
แรกสุดมาจากการใช้ตัวขับเสียงหลัก Uni-Q Generation ที่ 12 ที่ก่อกำเนิดเสียงช่วงแหลมและมิดเร้นจ์จากแหล่งกำเนิดเสียงเดียวกัน ตัดปัญหาเรื่องเฟส และไทม์อะไลน์เม้นท์ ทำให้มีโทนัล บาลานซ์ของเสียงดีเยี่ยมกว่าตัวขับเสียงโดยทั่วไป เป็นตัวขับที่พัฒนาได้อย่างทรงประสิทธิภาพอย่างมาก
อีกทั้งเทคโนโลยีแผ่นเมมเบรน Metamaterial Absorption Technology (MAT) ซึ่งเป็นการปฏิวัติวงการอย่างแท้จริง ในการจัดการ กับอคูสติกภายในตู้ลำโพงของ KEF ด้วยโครงสร้างซับซ้อนคล้ายเขาวงกตช่วยขจัดเสียงที่ไม่ต้องการจากด้านหลังของไดรเวอร์ ได้ถึง 99%
ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานบริสุทธิ์และเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงเทคนิคการออกแบบอื่นๆ ที่ประกอบกันอย่างลงตัว รูปแบบตัวตู้ทาวเวอร์ทรงลึกเป็นพิเศษ ทำให้ Q11 METAสามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัวกับห้องที่มีพื้นที่เล็ก ถึงห้องขนาดใหญ่ จาก 12-30 ตารางเมตรโดยปราศจากปัญหา
หลังจากเบิร์นได้ตามลำดับชั่วโมงที่ผมตั้งใจไว้ จะพบว่าการผลักอากาศของตัวขับเสียงดูคล่องตัว มีทั้งความคล้องจองกันของเบสไดรเวอร์ทั้ง 3 และความรู้สึกที่เปิดโปร่งอิสระมากยิ่งขึ้นกับ Uni-Q เจเนอเรชั่นนี้
แม้ลำโพงคู่ที่ผมนำมาทดสอบ อาจจะผ่านการใช้งานมาบ้างเล็กน้อย แต่แรกสุดที่แกะกล่อง และนำมาเบิร์น พบว่าช่วงเสียงต่ำจะยังดูทึบๆ หนักๆ ไม่ปลดปล่อยอยู่บ้าง ดังนั้นท่านใดที่เป็นเจ้าของ KEF Q11 META ลำโพงตั้งพื้นขนาดใหญ่คู่นี้ ควรใหัระยะเวลานับแต่เปิดกล่อง เบิร์นอินไปจนถึงการฟังระยะแรกๆ ไปสัก 2-3 สัปดาห์ครับ เพื่อให้ความสดใหม่ของลำโพง ได้ “กายบริหาร” ให้คล่องตัว
เพราะหลังจากทุกอย่างพร้อม คุณจะได้คุณสมบัติเยี่ยมๆ จากเสียงดนตรีที่สมจริงอบอุ่นนุ่มนวลน่าหลงใหลเลยทีเดียว
1. ระยะการวางทั่วไป Setup ได้ลงตัวที่สุด (ในห้องฟังของผมประมาณ 3.5x4.5 เมตร) ลำโพงวางห่างกัน จากศูนย์กลาง ถึงศูนย์กลางที่ 2.10 เมตร ห่างผนังหลังประมาณ 1 เมตร (วัดถึงท่อพอร์ตด้านหลัง) และห่างผนังข้างประมาณ 70 เซนติเมตร
2. ฟังที่ความดังเฉลี่ยทั่วไป 55-65 เดซิเบล มีอัตราพีคสูงสุดบางครั้งกับเพลงคลาสสิกคัล วงออเคสตร้าวงใหญ่ ที่ 85 เดซิเบล
3. ไม่ต้องโทอินลำโพง แต่การผสานกันของเวทีเสียง ของลำโพงซ้ายและขวาเสมอสมานกันได้สนิทเป็นหนึ่งเดียว ทำให้รู้สึกได้ถึงความโอ่อ่า เวทีเสียง Soundstage ว่า KEF Q11 META ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ผมชอบความลึกเวทีดนตรีที่เหนือลำโพงตั้งพื้นหลายคู่ที่เคยฟังมา (On the Beautiful Blue Danube Waltz, Op.31- Ein Straussfest)
4. ฟังเพลงได้อย่างหลากหลายสไตล์มาก ตั้งแต่ พ็อพ แจ็ส คันทรี ไปจนถึงคลาสสิก และเพลงร็อคในตำนานที่สนองความถี่ได้เต็มสเกล โดยเฉพาะความถี่ต่ำลึกแบบลึกอิ่มมีพลังชนิดไม่ต้องพึ่งซับวูฟเฟอร์ Q11 META ก็สนองตอบได้อย่างอิ่มอารมณ์มาก (Turn of The Tide -Barclay James Harvest) อิทธิพลของการวางตัวขับเบสสามตัวเรียงแนวดิ่งทำงานประสานกันได้ราวกับฟังเสียงจากวูฟเฟอร์ 15 นิ้วเลยครับ‼️
5. ความเรียบสะอาดของเสียงร้อง ที่ดูหลุดลอย และได้อิมเมจจุดตำแหน่งแม่นดีแท้ครับ บางอัลบั้มนี่เล่นเอาผมประหลาดใจเลยว่า KEF Q11 META นี่ให้ผลลัพธ์เหมือนฟังดนตรีและศิลปินมาขับร้องอยู่แถวหน้าเลยด้วยซ้ำ (Amanda McBroom -Voices)
6. ดีเทล รายละเอียด ของ Q11 META นับว่าครบถ้วนดีทีเดียว ผมเคยฟัง KEF R5 และ Reference 1 มาก่อน นับว่าปลายเสียงของ Q11 META แจกแจงรายละเอียดได้ในแนวทางเดียวกัน คืออิ่มฉ่ำสุภาพ ละเมียดละไม ชัดเจน ในยามพีคของเครื่องดนตรี ไม่แผดกล้าผิดเพี้ยน การทำงานไดรเวอร์แม่นยำ ผลจากเทคโนโลยี MAT น่าจะเป็นคำตอบของคุณภาพเสียงได้เป็นอย่างดี (Breaking Silence: Janis Ian)
7. การฟังเพลงจากแผ่นเสียง KEF Q11 METAให้คำตอบของน้ำหนักเสียงหรือค่าไดนามิคของเสียงได้เป็นอย่างดี นี่คือลำโพงตั้งพื้นที่ดูจะแสดงพลัง หรือ Energy ของดนตรีอย่างมีลำดับความดัง-เบา ด้วยสัดส่วนสมจริง และค่าทรานเชียนต์หรือเสียงที่ฉับพลันได้ชนิดครบถ้วน แม่นยำ
8. KEF Q11 META มีข้อดีอย่างมากก็คือ เป็นลำโพงที่สนองตอบเพลงได้ไม่จำกัดสไตล์ ทำให้ผมได้ฟังลำโพงคู่นี้ในแต่ละวัน หลายชั่วโมง หลายหลากสไตล์ติดต่อกัน เต็มไปด้วยความสุข จะว่าไปก็คือแทบลืมสรรพสิ่งและโลกภายนอกไปเลย เป็นลำโพงที่ฟังแล้วได้ความเข้าถึงง่าย และพร้อมจะเป็นทุกสิ่งที่คุณอยากอยากให้เป็น
9. สรุปสุดท้าย KEF Q11 META เป็นลำโพงที่มีราคาไม่ถึงคู่ละแสนบาท ที่ให้ความสุขผู้ฟังได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถฟังทุกเสียงทุกแนวดนตรีอย่างเต็มอิ่ม ไม่เกี่ยงแอมป์ ไม่กินกำลังขับจากภาคขยาย ขับได้แม้แอมป์หลอด 9 วัตต์ ไปจนถึงแอมป์คลาส D ที่ 400 วัตต์ ถือว่าเร้นจ์กว้างมาก ยิ่งการฟังแผ่นเสียงจะเข้าถึงส่วนลึกของ พลังและน้ำหนักเสียงได้เป็นอย่างดี
และเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่ KEF ออกแบบเป็นลำโพงแบบขั้วลำโพงแบบเดี่ยว Single Wired ที่สร้างพลังเสียงเต็มอิ่มพร้อมความสมดุลของเสียงได้อย่างน่าประทับใจ
KEF Q11 META ลงตัวได้พอดีกับดนตรีทุกสไตล์ครับ
KEF Q11 META ราคาคู่ละ 95,900.- บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ทดลองฟังได้ที่ ร้านจำหน่ายเครื่องเสียงชั้นนำทั่วไป
หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
บริษัท วีแกดซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
เลขที่ 9/7 ซ. รัชดาภิเษก 18 ถ. รัชดาภิเษก ห้วยขวาง กรุงเทพฯ
โทร 02-692-5216
https://www.vgadz.com/kef/
https://www.facebook.com/KEFaudiothailand