LONDON/DECCA REFERENCE CARTRIDGE

0
2439

LONDON/DECCA REFERENCE CARTRIDGE

งดงามล้ำลึกในน้ำเสียง

           นับจากวันที่ผมเริ่มคลั่งไคล้อนาล็อกไวนีล เป็นต้นมาเมื่อสามสิบห้าปีที่แล้ว ถึงปัจจุบัน เชื่อเหลือเกินว่าต้องได้เล่น ได้ฟัง ผ่านหัวเข็มเล่นแผ่นเสียงต่างๆ จำนวนมากมาย ไม่ต่ำกว่า 40-50 หัวเข็มแน่ๆ ที่ผ่านการฟัง การใช้งาน มาอย่างเพลินเพลิน สร้างความเร้าใจอันแตกต่างไปตามรูปแบบ และบุคลิกเสียงทั้ง Moving Magnet (MM), Moving Coil (MC)

           และหัวเข็มที่อยู่ระหว่างกลางคือ Moving Iron (MI)

           หัวเข็ม MM รูปแบบหลักๆ คืออาศัยแม่เหล็กเคลื่อนที่ หัวเข็มจะมีแท่งแม่เหล็กถาวรขนาดเล็กติดอยู่กับก้านปลายเข็ม (Cantilever) ที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างขดลวดสองชุด ที่เซาะไปตามร่องแผ่นเสียงทำให้เกิดสัญญาณเสียง   

            ส่วนหัวเข็มแบบ MC มีการออกแบบที่ตรงข้ามกับหัวเข็มแบบ MM โดยมีขดลวด (Coil) ติดอยู่กับก้านปลายเข็ม (Cantilever) ซึ่งขอเรียกว่าเป็นระบบคอยล์เคลื่อนที่ ระบบนี้สัญญาณเอาท์พุตเบากว่าแบบ MM ถึงสิบเท่า จึงต้องมีภาคขยาย Phono ต่างหาก

            ปัจจุบันมีบางบริษัทได้ออกแบบหัวเข็ม MC High Output ขึ้นมา มีจำนวนรอบคอยล์และทำให้คอยล์เคลื่อนที่ได้มากขึ้น สัญญาณขาออกจึงใกล้เคียงกับหัวเข็มแบบ MM เป็นหัวเข็มยอดนิยมอีกแบบหนึ่ง

            หัวเข็มแบบ Moving Iron (MI) เป็นรูปแบบของหัวเข็มที่น่าสนใจอย่างยิ่ง วิธีการออกแบบก็คือให้แม่เหล็กและคอยล์อยู่กับที่ไม่มีการเคลื่อนไหว แต่จะใช้แท่งเหล็กที่มีความบริสุทธิ์สูงอยู่ที่ปลายก้านเข็ม (Cantilever) ให้เป็นตัวเคลื่อนที่ แต่เดิมมามี B&O, Grado เป็นผู้นำระบบนี้มาใช้

เนื่องจากหัวเข็มแบบ MI มีการเคลื่อนไหวกลไกภายในน้อยอย่างยิ่ง แต่กลับสามารถให้กระแสเอาท์พุตแรงกว่าหัวเข็มทุกรูปแบบ จึงถือว่าเป็นจุดเด่นที่แตกต่างออกไป       

            หัวเข็ม MI ในแบบของ London/Decca นับเป็นการออกแบบเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร โดยให้แท่งแม่เหล็กและขดลวดติดอยู่กับที่ ให้ส่วนที่เคลื่อนไหวคือก้านปลายเข็ม (Cantilever) ที่มีขนาดสั้นมาก โดยมีแท่งเหล็กติดตั้งอยู่ใกล้กับปลายเข็ม ในระยะที่ชิดใกล้มากถึง 1 มม. การเกาะร่องของหัวเข็มแบบนี้ถือว่าแม่นยำที่สุดในบรรดาหัวเข็มทั้งหลาย

           London/Decca Reference นั้นเป็นตัวแทนแห่งหัวเข็ม MI รุ่นสูงสุดของแบรนด์ ที่ผมมีโอกาสได้ฟังเป็นครั้งแรก หลังจากได้เคยฟังหัวเข็ม MI ของ Grado มาอย่างเนิ่นนาน

            อันที่จริงแต่เดิมหัวเข็ม London/Decca เป็นผลิตภัณฑ์ของ Decca แต่ได้มีการขายลิขสิทธิ์หัวเข็มให้แก่ John Wright ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ London หัวเข็มในแบบของ Decca จะถูกพัฒนาภายใต้ชื่อ London รูปแบบการทำงานของหัวเข็มนั้นยังคงไว้ซึ่งเทคนิคดั้งเดิมของ Decca

            หัวเข็มรุ่นหลักๆ จะเริ่มจากรุ่น Jubilee, Super Gold ที่ผมเคยทดสอบคู่กับNotthingham Space 294 มาแล้ว

            ซึ่งในครั้งนี้ผมจะคงเอาไว้ซึ่งเทอร์นเทเบิ้ลเดิม แต่หันมาใช้หัวเข็มรุ่นสูงสุดคือ รุ่น Reference ที่มีราคาสูงไปตามความสุดยอดของเขาคือ 185,000 บาท ครับ

            ความแปลกพิสดารของหัวเข็ม MI ในแบบ London/Decca คือ ตามปกติหัวเข็มทุกรูปแบบจะมี Stylus ติดกับก้านเข็ม (Cantilever) แต่ของ London จะเป็นหัวเข็มแบบไร้ก้าน เราจะพบว่ามีตัว Stylus โผล่ออกมาจากตัวบอดี้ของมันเลย โดยตัว Stylus จะยึดกับแท่งเหล็ก (Armature) ซึ่งอยู่ระหว่างคอยล์และแม่เหล็ก เป็นการออกแบบที่ลดแรงสั่นสะเทือนจากองค์ประกอบอื่นได้อย่างหมดจด

            น่าทึ่งตรงที่ หัวเข็มของ London ผลิตด้วยมือ (Hand Made) ในประเทศอังกฤษ ดังนั้นน้ำหนักของหัวเข็มแต่ละหัว แม้จะเป็นโมเดลเดียวกัน ผู้ผลิตไม่สามารถที่จะควบคุมน้ำหนักของหัวเข็มที่ผลิตมาเท่ากันได้เป๊ะทุกหัว แต่คุณภาพเสียงนั้นจะเท่าเทียมกันครับไม่ต้องห่วงครับ

            ต่อไปนี้ผมจะขอเรียกว่าหัวเข็ม London Reference เพื่อความเข้าใจง่ายนะครับ

           ในทางเทคนิคหัวเข็ม London Reference จะมีองค์ประกอบของแม่เหล็กแบบกลวงที่มีน้ำหนักเบาใช้ชุด Armature แทนการใช้แม่เหล็กถาวรขนาดเล็ก คุณประโยชน์คือ ส่วนที่เคลื่อนไหวของชุดหัวเข็มจะผลิตจากโลหะอัลลอยแม่เหล็กน้ำหนักเบา ทำให้มีมวลน้อยกว่า ตอบสนองผิวสัมผัส (ร่องเสียง) ได้แม่นยำกว่า

            และจากนี้ไปคือ สิ่งที่ผมจะทำการพิสูจน์ครับ

            อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบร่วมกันคือ Sugden Master Class PA-4 ภาคปรีโฟโน แอมปลิไฟร์หลอดซิงเกิ้ลเอ็นด์ NAT Single HPS  (Single Ended Integrated Amplifier) สลับกับ Sugden IA4 Class A Amplifier และเครื่องเล่นแผ่นเสียง Notthingham Space 294

On Test

            น่าจะเป็นครั้งแรกที่ผมได้ฟังหัวเข็ม MI ในระดับราคาเกือบสองแสนบาท  คงพอจำกันได้ว่าผมเคยเทสท์หัวเข็มของ London มาก่อนหน้านี้ คือหัวเข็ม London Super Gold ซึ่งเป็นรุ่นกลางที่เสียงสะอาด มีน้ำหนักเสียงดีมาก การขยับขึ้นมาเป็น London Reference เหมือนดั่งว่า เราโดดลอยสูงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

           แผ่นเสียงทดสอบใช้อัลบั้มหลักที่ผมชอบฟังหลายหลากของ Mobile fidelity เริ่มจาก Hiroshima / GEORGE BENSON Breezin’ / FLEETWOOD MAC-RUMOURS – VINILO CRYSTAL GAYLE  We Must Believe in Magic / Kenny Rogers – Greatest Hits ถือเป็นขบวนแรก

           จุดเด่นที่พบได้ทันที คือความ Clean สะอาดหมดจด น่าประทับใจ รวมทั้งน้ำหนักเสียง รายละเอียดในช่วงปลายที่พลิ้วไสว ให้ความรู้สึกอันเปิดโปร่ง ทุกอย่างดูจะโดดเด่นกว่าทั้งหัวเข็มรูปแบบ MM และ MC

            หัวเข็ม MM ส่วนใหญ่น้ำหนักเสียงดีแต่มักจะเสียงทึบ ส่วนหัวเข็ม MC ได้เสียงที่เปิดโปร่งกังวาน แต่น้ำหนักเสียงอาจโปร่งแบบเบาบาง

            London Reference เป็นหัวเข็มที่เข้าถึงจุดสมดุลมากที่สุด ที่เราต้องยอมรับ เหมือนเป็นการรวมข้อดีของหัวเข็มทั้งสองแบบมาอยู่ที่เดียว และน่าทึ่งว่า ความละเอียดละเมียดละมัย มันช่างสุดยอดมากๆ ยิ่งในแง่เสียงกลางด้วยแล้ว อิ่มและให้ความจริงสูง

            จากการทดสอบฟัง (อย่างเพลิดเพลิน สามสี่วันแรก วันละ 4-5 ชั่วโมง) ส่วนที่ชอบมากที่สุดคือ “รายละเอียดที่มีความตรงไปตรงมา”  ทำให้ผู้ฟังเข้าถึงความจริง! ความจริงที่ว่านั้นคือ แผ่นไวนีลทุกแผ่นซึ่งผ่านการบันทึกจากสตูดิโอที่ต่างสำนักกัน

            เมื่อต่างกันสำเนียงในแผ่นจึงควรต่างกันไปด้วย

            แต่หัวเข็มที่เข้าถึงความจริงมากที่สุดเท่านั้น จะแสดงให้เห็นได้ว่า บุคลิกเสียงแต่ละค่ายเพลงนั้น มีความดีเด่นไม่เหมือนกัน เช่นบางค่ายมีบุคลิกอบอุ่นนุ่มนวล บุคลิกหวานใสโปร่งสะอาด บุคลิกของเสียงร้องที่ฉ่ำ บุคลิกที่มีไดนามิคทรงพลังต่างๆ เหล่านี้ London Reference เข้าถึงได้แม่นยำ เสมือนหัวเข็มระดับมอนิเตอร์ เรฟเฟอรเร้นซ์ ที่ให้ทั้งรายละเอียด และความจริงอย่างถึงที่สุด

            การเก็บเอารายละเอียดน่าตื่นตาตื่นใจ (หู) อย่างที่ผมเองก็ไม่เคยได้ยินจากหัวเข็มอื่นใดมานั้น น่าจะมาจากการเกาะร่องแผ่นที่นิ่งมากๆ เราจึงฟังแผ่นเสียงแต่ละอัลบั้มอย่างประทับใจ ไม่ใช่เสียงที่เกิดจากความจงใจในบุคลิกตัวเองแต่เพียงอย่างเดียว

            หัวเข็ม London Reference ให้เวทีวงดนตรี อย่างงดงามล้ำลึกในน้ำเสียง ผมตื่นเต้นกับน้ำเสียงที่ออกฉ่ำๆ รวมฮาร์โมนิคไว้ครบครัน การทอดรายละเอียดของเครื่องดนตรีกังวานยาวไกล หรือจะเรียกง่ายๆ ว่า การมี “ปลายหางเสียง” นั้นต้องถือว่าสุดยอดระยิบระยับจริงๆ อย่างที่เราไม่เคยได้ยินแบบนี้ จากหัวเข็มอื่นใด

            จากการที่ London Reference มีองค์ประกอบน้อย ปราศจากก้านเข็ม คือเข็มเป็นเส้นตรงออกมาสัมผัสแทร็คร่องแผ่นเลย จะทำให้เก็บรายละเอียดโดยปราศจากการเบี่ยงเบน ทุกๆ เสียง ไม่มีคำว่ามัวมน ให้ความถี่ตลอดย่านความถี่เสียงครบถ้วนจริงๆ เสียงร้องเปิด สะอาด  ชิ้นดนตรีชัดเจนกังวาน มีมิติเสียงหรือไดเมนชั่นเหมือนสามมิติ

            พลังเสียง ไดนามิคครบถ้วน ฟังเพลงที่มีวงดนตรีขนาดใหญ่ได้เต็มที่มากๆ

            ที่ต้องถือว่า สามารถเป็นได้ทั้งจุดเด่น และจุดด้อยก็ได้ทั้งสองอย่าง เพราะเข็มแบบนี้แทร็คร่องได้แนบชิดมาก มันจึงไวต่อฝุ่น คราบ ขนแมว หรือรอยของแผ่น ทำให้เราได้ยินเสียงสแครช ง่ายกว่าหัวเข็มแบบอื่น

จะว่าไป หัวเข็ม London Reference สามารถเปิดเผยทุกรายละเอียดระยิบระยับได้อย่างยอดเยี่ยม ขอเพียงให้แผ่นไวนีลบันทึกมาอย่างมีคุณภาพดี และควรเล่นกับแผ่นสะอาดเท่านั้นเป็นพอครับ

            เมื่อฟังเสียงเพียงครั้งแรก คุณจะรู้สึกได้เลยว่า มันให้เสียงดีกว่าหัวเข็มราคาแพงสูงสุดยอดอื่นๆ ที่แพงกว่ามันอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว       

            เพลงร้องจะสดใสสะอาดมีน้ำหนัก

เพลงแจ็ซ พ็อพ ฟังได้สนุกเร้าอารมณ์ สมจริง เพลงคลาสสิก รูปวงโอ่อ่าน่าทึ่ง การเข้าถึงรายละเอียดทุกอณูเสียงคือหัวใจของ London Reference ครับ

            London Reference ให้ความเป็นอนาล็อกได้อย่างสูงสุด นี่คือความพิเศษในหัวเข็มแผ่นเสียง ที่ให้คำจำกัดความสั้นๆ ว่า โอ่อ่า และ “งดงามล้ำลึกในน้ำเสียง” อย่างแท้จริง

สนใจติดต่อ Sound Box อาคารศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ชั้น 3

คุณโจ้ : 089-920-8297

คุณธงชัย : 092-890-4660 , Line ID : tsoundbox

คุณคมสัน : 093-465-6693 , Line ID kkoakung

Facebook เพจ : https://www.facebook.com/soundboxthailand/?ref=bookmarks

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here