Rogers LS3/5A Classic

Special Edition Gold Label

เลยขีดจำกัดของลำโพงเล็ก

            ติดตามเรื่องราว BBC Monitor มาอย่างกระชั้นชิดตลอด ก็จะพบว่า มีความพยายามปรับปรุงลำโพงคู่นี้กันมาเรื่อยๆ และยาวนานที่สุดในช่วงอายุของลำโพงโมเดล LS3/5 A กว่า 50 ปี มันเป็นลำโพงเล็กที่น่าจะมีอายุยืนยาวที่สุดในโลก มีการอัพเกรดอยู่ทุกห้าปี สิบปี และล่าสุด เป็นการยกระดับของ Rogers LS3/5A Classic SE หรือรุ่นป้ายสีทอง Gold Label

            Andy Whittle วิศวกรและเจ้าของ Rogers ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านอิเล็กทรอนิกส์ ออดิโอ อย่างหาคนทัดเทียมได้ยาก แม้ว่า Rogers LS3/5A Classic ที่เขานำมาปรับปรุงและออกวางจำหน่ายภายใต้สิทธิบัตรของบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือ บีบีซี (British Broadcasting Corporation) แต่ก็ยังคงรักษาธรรมเนียมแบบแผนเดิมไว้อย่างเคร่งครัด

            เพื่อให้มันยังคงเป็นลำโพงที่แสดงตัวตนอย่างชัดแจ้งว่า เป็นผู้ถ่ายทอดเสียงสนทนา เสียงร้อง เสียงดนตรี แบบตรงไปตรงมา ไร้การบิดเบือน ด้วยอัตราส่วนสเกล 1:8 ของเสียงดนตรีจริง จะว่าไปแล้วลำโพงรุ่นนี้ อายุยืนยงที่สุดในโลกก็ว่าได้

            การปรับปรุงแบบแปลนพิมพ์เขียวเดิม จะทำได้ตามข้อกำหนดของ BBC ซึ่งคุณ Andy Whittle ได้เน้นเรื่องครอสโอเวอร์ในรุ่นป้ายทอง หรือ LS3/5A Classic SE นี้ ไม่ใช่แค่เพียงเปลี่ยนลาเบลหลังลำโพงเป็นสีทอง และป้ายยี่ห้อเป็นสีทองเท่านั้น ยังมีการปรับครอสโอเวอร์ ภายในด้วย ตัวต้านทานแบบอัพเกรดที่ใช้สำหรับ R1 และ R2 เป็นแบบใหม่ที่จะมีผลต่อปลายเสียงมากพอดู ทุกขั้นตอน Hand made ผลิตด้วยมือในอังกฤษ และจากการทดสอบฟังเปรียบเทียบในแง่คุณภาพเสียงนั้น นับว่าน่าสนใจมาก

            ทวีตเตอร์ วูฟเฟอร์ยังคงเดิม เหมือนรุ่นป้ายเงิน โดยใช้ทวีตเตอร์โดม Mylar พร้อมวอยซ์คอยล์งานแฮนด์เมด Nomex แบบดั้งเดิม ตัวเบสยูนิต ใช้กรวยแบบ เบ็กซ์ทรีน โคน (Doped Bextrene Cone) ลำโพงแต่ละชุดยังคงนำมาจับคู่แมตช์แพร์ วัดและทดสอบอย่างพิถีพิถันที่โรงงานของ Rogers ในสหราชอาณาจักร

            โครงสร้างไม้เหมือนเดิม แต่สิ่งที่เห็นด้วยตาเปล่า คือผ้าหน้ากาก ทำให้ดึงออกง่ายกว่าเดิม ยึดด้วยเมจิกเทป (Magic Tape) หรือแถบตีนตุ๊กแก เหลือเย็บติดไว้แค่ขอบมุมทั้งสี่มุม ไม่ได้ยาวตลอดแถบหน้าลำโพง แต่ก็มีจุดที่ต้องระวังคือ เหมือนผู้ออกแบบเจาะจงว่า ต้องเปิดหน้ากากฟังเท่านั้น มิฉะนั้นหน้ากากอาจจะหลวมคลอนส่งเสียงรบกวนได้

            สรุปคือ Rogers LS3/5A Classic Special Edition Gold Label นั้น ต้องเปิดหน้ากากฟังเท่านั้น จะว่าไปก็ดูเรียบง่ายสวยขึ้น ส่วนด้านหลังขั้วเสียบต่อลำโพงก็จะเป็นแบบปลั๊กอินเหมือนเดิม

Preview

            ผมทดสอบโดยใช้สลับกันทั้งขาตั้งโลหะ และขาตั้งไม้ ผลที่ได้ใกล้เคียงกัน จุดสังเกตคือลำโพงรุ่น LS3/5A Special Edition Gold Label นี้ จะมีความกว้างลึก ของเวทีเสียงเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นปกติ หรือรุ่นป้ายเงิน แสดงถึงการปรับปรุงครอสโอเวอร์เน็ตเวิร์คมีผลต่อการกระจายเสียงที่กว้างลึกมากขึ้นจริงๆ

            อย่างไรก็ตามจำเป็นมากที่จะต้องเบิร์นลำโพง Rogers LS3/5A Classic Special Edition Gold Label นี้ยาวนานเกิน 150-180 ชั่วโมง ทุกอย่างจึงจะเข้าที่ทาง

            เวอร์ชั่นล่าสุด LS3/5A ยังคงให้ความแม่นยำเสียงร้องได้สุดยอด และแม้ว่ารุ่นป้ายทอง มีการปรับปรุง “เล็กน้อย” แต่กลับเห็นผลที่ “ใหญ่” มากพอดูเลยทีเดียว ทั้งสเตอริโออิมเมจ แม่นยำสุดๆ กับความเป็นธรรมชาติ เสียงร้อง เสียงดนตรี เข้าใกล้ความจริงอย่างถึงที่สุด อันนี้ ต้องยอมยกให้เขาเลยครับ

            ผมประทับใจ ไดนามิคเร้นจ์ของ Rogers LS3/5A Classic Special Edition Gold Label ที่กว้างและเวทีเสียงที่มาได้แบบหลุดตู้ สมจริง รายละเอียดเป็นที่น่ารื่นรมย์ยิ่งนัก อะไรที่เคยมีในรุ่นธรรมดาก็ยังคงอยู่ แต่รายละเอียดเวทีเสียงเข้าขั้นโอฬารพันลึกขึ้นไปอีก

            ก็ต้องยอมรับว่า Andy Whittle น่าจะเป็นวิศวกรที่เข้าใจองคาพยพของ BBC Monitor ได้ดีที่สุด เขาจึงปรับให้ลำโพง 15 โอห์ม ในอดีตให้พลิกฟื้นตำนาน เปล่งประกายเสียงที่เหนือกว่าของเดิมอย่างสิ้นเชิง‼️

            และหากคุณเข้าใจ และลึกซึ้งกับความงดงามในดนตรี อยากให้ได้ลองฟัง Rogers LS3/5A Classic Special Edition Gold Label แล้วจะเข้าใจว่า ทำไมลำโพงเล็กคู่นี้ ที่ยังคงมีความสุดยอดในการถ่ายทอดความสมจริงทุกกระเบียดนิ้วนี้ ได้เลยขีดจำกัดของลำโพงเล็ก ไปแล้วจริงๆ

            สนใจลำโพง Rogers LS3/5A Classic Special Edition Gold Label สอบถามรายละเอียด และทดลองฟังได้ที่ Msound  โทร. 096-978-7424