PSB SubSeries 250

เบสหนักแน่นทรงพลัง

            ผมเชื่อว่าหลายคนคุ้นเคยกับ PSB ซึ่งเป็นลำโพงยอดนิยมในตลาดออดิโอไฟล์มายาวนาน และอีกเช่นกันหลายคนคงเคยได้สัมผัสหรือเคยใช้งานลำโพง Active Subwoofer ของเขามาบ้างแล้ว ในซีรีส์ก่อนหน้านี้ แต่เทคโนโลยีที่ก้าวไกล ทำให้เราได้เห็นซับวูฟฟอร์ขนาดไม่ใหญ่ แต่ให้พลังเบสและกำลังขับที่เหลือล้น เฉกเช่น PSB SubSeries 250 นี้

            อันที่จริง PSB เปิดตัวซับวูฟเฟอร์รุ่นล่าสุดมา 2 รุ่น อันมี SubSeries 250 ขนาดตัวขับ 10 นิ้ว และ SubSeries 350 ขนาดตัวขับ 12 นิ้ว ใช้ภาคขยายเสียง Class D ด้วยขนาดที่กะทัดรัด แต่ให้พลังแรงเหลือเชื่อ

            โดย Paul Barton หัวหน้าทีมออกแบบ และเจ้าของบริษัทได้ย้อนกลับไปนำเอาระบบตู้ปิดอะคูสติกซัสเพนชั่น กลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งเป็นผู้ปรับจูนระบบด้วยตนเอง เพื่อให้มันเป็นซับวูฟเฟอร์ขนาดกะทัดรัด แต่เสียงมหึมาน่าทึ่งจริงๆ ในยุคปัจจุบัน

            เราได้รับ PSB SubSeries 250 มาทดสอบ กับระบบฟังเพลงสเตอริโอ และโฮมเธียเตอร์ ทั้งสองรูปแบบ

            นี่คือซับวูฟเฟอร์ ขนาด 10 นิ้ว ที่มีตัวขับวูฟเฟอร์แบบกรวยโพลีโพรไพลีน ทำงานร่วมกับวงจร Smart Bass Limited ที่จะคอยควบคุมไม่ให้ตัวลำโพงนั้น ต้องทำงานเกินลิมิต จนเกิดความเพี้ยน แม้กรวยจะมีขนาดเพียง 10 นิ้ว แต่สามารถตอบสนองความถี่ลงไปได้ลึกถึง 20 เฮิรตซ์ เลยทีเดียว

            ภาคขยายใช้เทคโนโลยีใหม่จาก NAD High Current MOSFET แบบ Class-D ประสิทธิภาพสูง มีพลังขับในตัว 200 วัตต์ และสามารถพีคได้เต็มที่ถึง 300 วัตต์ พร้อมดีไซน์ตัวตู้อย่างสวยงาม ไฮ-กรอส ปรับแต่งง่ายด้วยการเชื่อมต่อทุกรูปแบบ

            การขยับตัวของตัวกรวยลำโพง จากการทดสอบ เป็นไปอย่างน่าดูชม คือฉับไว ไม่อืดอาด ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของเฟสได้อย่างราบเรียบต่อเนื่อง ใช้ตัวกรอง low-pass ย่านความถี่ที่สามารถปรับได้

            การต่อซับ มีรูปแบบครบครัน คือการต่อลำโพงซับรุ่นนี้ เข้ากับลำโพงขนาดเล็ก เพื่อให้มีการเสริมความถี่อย่างครบถ้วน เราสามารถต่ออินพุตสายลำโพง เข้าที่ซับ และพ่วงต่อกับ ลำโพงเล็กที่เรามี ให้เป็นแซทเทิลไลท์ได้เลย

            ระบบการเชื่อมสัญญาณเสียงอินพุต เอ้าพุตแบบ RCA สำหรับสัญญาณเสียงระดับไลน์อินทั้งหลาย รวมถึงช่องรับสัญญาณเสียงอินพุตสำหรับสัญญาณ LFE ในระบบโฮมเธียเตอร์

            การต่อสัญญาณทางไลน์ ที่ช่อง RCA นั้น เราสามารถเลือกจุดตัดกรองความถี่ตั้งแต่ 80Hz ด้วยความลาดชันในการตอบสนอง 12dB/octave ส่งผ่านออกไปขยายต่อภายนอกได้

            อีกคุณสมบัติหนึ่งที่อาจจะสร้างความงง ให้บ้างคือ ทำไมตู้ซับ PSB SubSeries 250 มีช่อง USB มาให้ด้วย?

            นี่คือช่องจ่ายไฟแบบ USB ที่ออกแบบมาเพื่อให้เราสามารถต่อกับตัวรับ สัญญาณเสียงแบบไร้สาย Bluesound RT100 อันจะเป็นการเชื่อมต่อไร้สายเข้ากับ Bluesound PULSE SOUNDBAR ให้ใช้งานคู่กันได้ทันที ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่บริษัท Conice เป็นผู้แทนจำหน่ายจะมีข้อดีตรงหลายๆ โมเดล ถูกออกแบบมาให้เป็นเหมือน “พาร์ทเนอร์” จัดระบบเชื่อมต่อไร้สายมาใช้คู่กันอย่างสะดวกง่ายดาย

            ดีไซน์ตัวตู้รูปทรงโค้งมนสีดำงามตามาก ในขนาดกะทัดรัดสวยหรูเพียง 345 x 375 x 365 มิลลิเมตร

Test Report

            จากการพิจารณารูปทรงและการออกแบบ เป็นที่น่าประทับใจยิ่ง ตู้ซับสีดำ High-gloss มีรูปลักษณ์ที่กลมกลืนกับทุกพื้นที่ด้วยรูปทรงที่มีขนาดกะทัดรัด ทุกชิ้นส่วนประกอบกันอย่างลงตัว ตู้ที่กะทัดรัดเรียบหรูดุจเฟอร์นิเจอร์ชิ้นงาม ทำให้จัดวางได้อย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งใดในบ้าน

            เมื่อพิจารณาปุ่มควบคุมด้านหลังลำโพง มีปุ่มปรับระดับความดังเสียง, จุดตัดครอสโอเวอร์ และ Phase Control ปรับได้ 180 องศา มีช่องเสียบ Line Level, LFE inputs/outputs สวิตช์เลือกสถานะการทำงานแบบปกติ และสแตนด์บายเพื่อเชื่อมต่ออัตโนมัติเมื่อมีย่านความถี่เสียงต่ำเข้ามา โดยใช้กำลังไฟขณะ Standby เพียงน้อยนิด คือน้อยกว่า 0.5 วัตต์เท่านั้น มีขั้วต่อลำโพงแบบ binding post ชุบทองโกลด์เพลท

            การทดสอบแรกสุด ผมนำไปต่อผ่านทางช่อง LFE input เพื่อเสริมในระบบโฮมเธียเตอร์ แบบ Dolby Atmos แบบ 7.1.4 ก่อนเลย คือปกติผมมีซับขนาด 12 นิ้วอยู่ เมื่อถอดออกไป แล้วนำเอาซับที่มีขนาดกรวย 10 นิ้วมาแทนที่ นี่ดูเหมือนว่าเราลดระดับเสียงต่ำลึกทรงพลับลงไปหรือเปล่า?

            ปรับครอสโอเวอร์ที่ประมาณ 60Hz – 70Hz โดยหมุนโวลุ่มของครอสขึ้นไปหนึ่ง หรือสอง ขีด จากนั้นค่อยๆ ปรับค่าระดับโวลุ่มความดังขึ้นไปจนถึงจุดที่คิดว่า สมดุล ถ้าถามว่าผมปรับระดับ และจุดตัดความถี่ด้วยประสบการณ์จากอะไร ก็เห็นทีจะต้องบอกว่าแผ่น Blu-ray คอนเสิร์ตที่ผมใช้งานประจำแค่สามแผ่นเท่านั้นเองคือ

–  Yanni Live: The Concert Event

–  Hans Zimmer: Live in Prague

–  John Williams: Live in Vienna 2020

            แล้วตามด้วย Star Wars: Episode VIII – The Last Jedi ที่อุดมด้วยเสียงมีคุณภาพอย่างครบถ้วน

            แค่นี้ ก็รู้ว่าการเซ็ตอัพของเรานั้นมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน กับพลังเสียงต่ำลึก และซิสเต็มโดยรวม ใน PSB SubSeries 250 นี้ ผมปรับโวลุ่ม Bass Level อยู่ที่ 12 นาฬิกา หรือครึ่งหนึ่ง นับว่าพอเพียง

            PSB SubSeries 250 มีเบสมหึมา และบริสุทธิ์ดีมากๆ พลังขับภาพขยายเต็มสตรีม ส่งผลต่อเสียงต่ำลึกอิ่มแน่นเปรียบเทียบก็เท่าเทียมตู้ซับ ขนาด 12 นิ้วอย่างสบายเลยครับ อันนี้ ต้องถือว่าเป็นซับตู้เล็กพริกขี้หนูตัวจริง ฟังแล้วรับรองว่า ปลื้มแน่นอนครับ

            PSB SubSeries 250 เสริมให้เสียงต่ำของวงออเคสตร้าครบถ้วน รวมทั้งภาพยนตร์ทั่วไปมีพลังเสียงต่ำถึงที่สุดได้ อย่างผมชมมาถึงหนังเรื่อง War Horse ก็อดจะยิ้มอย่างเป็นสุขใจมิได้

            ปกติในส่วน Phase ปรับไว้เพียง 0 เท่านั้น  แม้ว่ามันจะปรับไปได้เรื่อยๆ แบบละเอียด 0-45-90–135 ถึง 180 แต่ก็ไม่ได้แตะต้องนักเท่าไร แทบไม่เจอว่า ภาพยนตร์ หรือคอนเสิร์ตที่เราชมมีปัญหา ต้องปรับเฟส ดังนั้นฟังก์ชั่นนี้จึงเหมาะที่จะเอาไว้ปรับเมื่อยามจำเป็นจริงๆ เท่านั้น

            การทดลองตั้งฟังก์ชั่น เลือกสัญญาณ off, on, auto ทั้งหมดนั้น การตั้ง auto ในเวลามีย่านความถี่ต่ำที่ระบบ .1 เข้ามา  PSB SubSeries 250 ทำงานได้ทันท่วงทีครับ แต่ในแง่ของการใช้งานจริงของตู้ซับวูฟเฟอร์ผมมักจะเปิดสถานะ on ไว้เสมอ ครับ

            พลังความถี่ต่ำหนุนส่ง ได้อย่างฉับไว ตู้ซับนั้นไม่ทำให้รู้สึกว่าเป็นส่วนเสริม แต่เป็นส่วนหลักของระบบโดยแท้จริง ประเด็นสำคัญผมชอบที่ PSB SubSeries 250 นั้นให้เสียงค่อนข้างบริสุทธิ์ และ Cleanมาก สังเกตได้ง่ายก็คือ ตอนนำมาเสริมในระบบ ฟังเพลง 2 แชนแนลครับ

            ผมตัดสินใจเลือกใช้ลำโพง BBC Monitor ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่เสียงกลางสะอาดสะอ้าน และแม่นยำเที่ยงตรงเพียงแต่จะอ่อนในส่วนของเบสช่วงล่างที่ต่ำไปกว่า 60 – 70 Hz

            ดังนั้นเมื่อใช้งานร่วมกัน จึงจัดการตั้ง PSB SubSeries 250 ที่จุดตัดครอสไว้ในจุดที่สามารถจะคาบเกี่ยวกลมกลืนได้เป็นอย่างดีที่ 80Hz  คือให้มีย่านความถี่ยึดโยงกันได้ โดยต่อสัญญาณจากสายลำโพงมาที่ PSB SubSeries 250 แล้ว ต่อเอ้าพุตสายลำโพงไปยังลำโพงเมนหลักให้เป็นประหนึ่งแซทเทิลไลท์สปีกเกอร์

            หรือวิถีทางแบบนี้เองที่ทำให้เสียงจากลำโพงขนาดเล็กนั้นมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ได้ทั้งมิดเบสที่มีความสวยงาม การต่อเนื่องของเสียงกลางไหลลื่นมากขึ้น และเบสช่วงต่ำลงลึกได้เพียงพอ เรียกว่าใกล้เคียงกับลำโพงตั้งพื้นเลยก็ว่าได้

            ผมชอบน้ำเสียงของซับวูฟเฟอร์รุ่นนี้ตรงที่ว่าเบสอิ่มลึก มีความสมดุลดีมากเมื่อเรานำเอามาพ่วงเข้ากับลำโพงขนาดเล็ก แล้วปรับจุดตัดย่านความถี่ให้มันมีความกลมกลืนใกล้เคียงกัน สร้างเสริมมิดเบสช่วงต้น แบบไร้รอยต่อจากความนุ่มนวลเป็นธรรมชาติของ PSB SubSeries 250 เป็นทุนเดิม

            เบสที่เพียงพอไม่เกินเลย ก็จะทำให้คุณภาพเสียงที่มีสเกลขนาดเล็กของลำโพงจิ๋ว เกิดพลังเต็มอิ่มของสนามเสียงแผ่กว้างไร้จำกัดมากยิ่งขึ้น

            PSB SubSeries 250 ให้คุณภาพเสียงต่ำ ที่ลึกล้ำถึง 20Hz เท่ากับความสามารถได้ยินเสียงในย่านความถี่ต่ำของมนุษย์เราซึ่งไม่เคยมีซับวูฟเฟอร์ขนาดเล็กเช่นนี้ ทำได้มาก่อนเลย

            หากคุณต้องการเสียงต่ำสมจริง มีคุณภาพแม่นยำ อิ่มเอม ลึกล้ำ อย่าลืมทดลองฟัง PSB SubSeries 250 นะครับ แล้ว คุณจะพบว่า ส่วนที่ขาดหายไปในระบบเสียง จะคืนมาครบถ้วนง่ายดายใน Size ขนาดย่อม ที่เกินจินตนาการครับ

PSB SubSeries 250 ราคาปกติ 29,300 บาท ราคาพิเศษ 23,800 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม ชมได้ที่ www.conice.co.th

Specification:

Frequency Response

On Axis @ 0° ±3dB: 25-150Hz

LF Cutoff -10dB: 20Hz

Amplifier Power

Continuous: 200 Watts

Dynamic, Peak: 300 Watts

Acoustic Design

Woofer (Nominal): 10” (254mm) Polypropylene Cone

Rubber Surround

1-1/2” (38mm) Voice Coil

35oz (990g) Magnet

Crossover: Variable 50-350Hz, LR4

Low Pass Filter

Design Type: Sealed

Dimensions / Weights / Finish

Size (W x H x D): 13-5/8 x 14-3/4 x 14-3/8”

Weight: Net – 35.4lb (16kg)/each

Shipping – 42lb (18kg)/each

Finish: High Gloss Black

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here