SoundCast เป็นบริษัทอเมริกันที่มีรากฐาน มาจากผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญมาอย่างยาวนาน ได้พัฒนาเทคโนโลยีลำโพงไลฟ์สไตล์ ที่ใช้ทั้งในบ้าน และกลางแจ้ง หรือนอกสถานที่ จัดเป็นผู้ผลิตในระดับแนวหน้า และมียอดจำหน่ายทั่วโลกอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะลำโพงแบบไร้สาย Bluetooth ที่ให้คุณภาพยอดเยี่ยม

            อีกทั้งบรรดาผลิตภัณฑ์จำนวนมากของ SoundCast เคยได้รับรางวัล Innovation Award จาก CES อยู่เสมอ ถือเป็นสินค้าที่มีเทคโนโลยีน่าเชื่อถือมากที่สุด เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้า และ จัดจำหน่ายในประเทศไทย โดยบริษัท อัศวโสภณ จำกัดเพียงผู้เดียว

            ซึ่งมีหลายหลากรุ่นทั้งแบบพกพา และใช้งานภายในบ้านครบครัน

            ส่วนตัวแล้ว ผมรู้จักลำโพงบลูทูธ ของ SoundCast ในรูปแบบดีไซน์สวยงาม มานานแล้ว เคยใช้งาน และทดสอบรุ่นที่ ออกแบบมาก่อนหน้านี้หลายรุ่น ให้ความประทับใจผมอย่างสูงมาก            

ครั้งนี้จะขอแนะนำและทดสอบ SoundCast VG1 และรุ่น VG3 ซึ่งเป็นลำโพงพกพาไร้สายในระบบ Bluetooth 4.2 ด้วยกันทั้งคู่ ต่างที่ขนาด และรายละเอียดทางเทคนิค คุณภาพเสียงที่ครอบคลุมพื้นที่ และระดับความดัง น่าสนใจในดีไซด์ที่เน้นขับสีดำอย่างเข้มข้น เรียกว่าดูเฮฟวี่ สตรองมากเลยทีเดียว

SoundCast VG1 มีดีไซน์แนวนอน ดูคมเข้ม แบบสีดำด้าน สลับหน้ากากโทนสีเทา ขนาดจับต้องได้เหมาะมือ พกพาไปฟังได้ในทุกสถานที่ ให้ความรู้สึกน่าทึ่ง ในขนาดกะทัดรัด สูง x กว้าง x ลึก (173 x 59 x 74) มม. น้ำหนัก 460 กรัม

            ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 ไม่ใช่แค่น้ำสาดกระเซ็น แต่จุ่มลึกลงไปในน้ำได้ลึกหนึ่งเมตรถึงครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว

            ภาคขยายทรงพลัง ส่งผ่านให้ลำโพงขยายเสียงแบบสเตริโอ  ด้วยกำลังขับ 7.5W + 7.5 W เป็นภาคขยายเสียงแบบ Class D มีระบบซับความถี่ต่ำแบบ แพสสีพ เรดิเตอร์ ยิงเสียงเสริมด้านหลัง ตัวขับเสียงแบบอะลูมินั่มสองตัวคู่ สนองตอบความถี่ 76 – 20,000Hz มีไฟ LED แสดงสถานะลำโพง ระดับแบตเตอรี่ และระดับความดังครบถ้วน            

ลำโพงระบบบลูทูธซีรีย์นี้ ทั้งคู่ได้ให้การรองรับการส่งบิทเรทสูง ทั้ง AAC และ aptX ใช้ร่วม กับ Siri และ Amazon Alexa พร้อมช่องสัญญาณ ขาเข้า ขาออก AUX ขนาด 3.5 มม. ช่องชาร์จไฟแบบ USB เมื่อชาร์จแล้วสามารถเล่นได้ยาวนาน 15 ชั่วโมง ควบคุมการเล่นเพลงผ่านตัวลำโพงได้และเสริมการเล่น VG1 อีกหนึ่งตัว เพื่อทำงานแยกเสียงแบบสเตอริโอได้

สำหรับ SoundCast VG3 ซึ่งเป็นรุ่นใหญ่กว่า ดีไซน์เข้มข้น สีดำด้านดูเคร่งขรึมดุดัน ใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกันทุกประการ กับ VG1 เพียงแต่มีรายละเอียดค่อนข้างมากกว่าพอสมควร

            SoundCast VG3 สามารถเล่นเพลงได้ยาวนานถึง 21 ชั่วโมงในระดับความดังที่เต็มอิ่ม มีตู้ขนาดใหญ่กว่ารุ่น VG1 เหมาะกับการตั้งในทรงสูง ด้วยขนาด 89 x 254 มิลลิเมตร จึงเป็นขนาดที่เหมาะทั้งการใช้งานในบ้าน และออกนอกสถานที่

            โดยจุดเด่น ใน SoundCast VG3 นั้น ใช้เทคโนโลยี VGX ของเขาเอง ตัวขับเสียงกลางแหลม ขนาด 1.5 นิ้ว และตัวขับเสียงต่ำในขนาดสามนิ้ว แม่เหล็กแบบเฟอร์ไร้ท์ ออกแบบพิเศษให้มีช่วงชักยาวเหมือนลูกสูบ (Long-Throw) ทำให้สามารถเร่งระดับความดังได้สูงสุดจริงๆ

            ตัวซับวูฟเฟอร์ออกแบบคว่ำลง เพื่อให้พลังเบสหนักแน่นยิ่งขึ้น ดีไซน์นี้ให้การกระจายเสียงกว้างถึง 360 องศารอบตัว ขับเสียงด้วยแอมปลิไฟร์คลาส D 20 + 10 วัตต์ พร้อมระบบการส่งข้อมูลบิทเรทสูงแบบบลูทูธ 4.2 สนองตอบทั้ง ACC และ aptX

            VG3สามารถจดจำอุปกรณ์ที่จะมาเชื่อมต่อไร้สายได้ถึงแปดอุปกรณ์เลยทีเดียวครับ

            เป็นลำโพงที่มีระบบสั่งงานล้ำสมัยมาก ทำให้ใช้งานได้อย่างกว้างขวางด้วยปุ่มควบคุมแบบสัมผัสมีไฟบอกสถานะได้หลายโหมด เล่นเพลง หรือหยุด ควบคุมต้นทางของเพลงด้วยปุ่มสัมผัสง่ายดาย พร้อมไฟ LED แสดงสถานะแบตเตอรี่การปิด เปิด และบ่งบอกระดับเสียงครบถ้วน

            จุดเด่นที่น่าทึ่งคือ มีระบบ Qualcomm® TrueWireless™ Stereo (TWS) ทำให้เชื่อมต่อ VG3 สองตัวเข้าด้วยกันเพื่อทำเป็นระบบสเตอริโอ รวมถึงมีช่องสัญญาณขาเข้าแบบต่อสาย AUX ขนาด 3.5 มิลลิเมตร            

ผมชื่นชอบลำโพงทั้งสองรุ่น เพราะเป็นลำโพงระบบไร้สายที่ให้เสียงได้อย่างยอดเยี่ยม โดนเฉพาะ VG3 กระจายเสียงได้กว้างขวางมาก ในลักษณะรอบตัว 360 องศาจึงเป็นความได้เปรียบต่อลำโพงหลายรุ่นในตลาดซึ่งไม่สามารถทำเช่นนี้ได้

On Test

            จากนี้ไปคือผลการทดสอบ ที่น่าสนใจ โดยผมเลือกใช้ เครื่องโทรศัพท์ iPhone 11 ในการส่งเพลงพื้นฐานที่บันทึกจากมาสเตอร์เพลง จากสตูดิโอ เพลงจาก iTune เพลงจากสตรีมมิ่งTIDAL และสลับกับการใช้งานเครื่องเล่นพกพา Sony Walkman NW-A100TPS

            การใช้งานก็ไม่มีอะไรที่ยุ่งยาก คงเหมือนกับลำโพงบลูทูธโดยทั่วไป ในทั้งสองรุ่นนี้ความแตกต่างก็คือพลังของเสียง แน่นอนว่ารุ่น VG3 จะให้แรงพลังที่ดีกว่า ในขณะที่รุ่น VG1 ก็ต้องถือว่าให้เสียงที่ดีมากเลยทีเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับขนาดตัวของมัน

            เพราะ VG1 เสียงใหญ่เกินขนาดตู้ไปสองสามเท่าตัวเลยทีเดียว

            สำหรับรุ่น VG3 จุดเด่นของเสียง สามารถให้เสียงได้อย่างมีเวทีเสียงกว้างขวางรอบตัว ไม่ว่าเราจะนั่งอยู่ด้านหน้า ด้านข้าง หรือด้านหลังของลำโพงยังคงได้ยินเสียงที่แผ่อย่างเข้มข้น ออกมาอย่างมีทิศทางสม่ำเสมอ

            คือฟังครั้งแรกเล่นเอาตกใจนึกว่ากำลังฟังเครื่องเสียงชุดใหญ่ด้วยซ้ำไป เพราะเสียงเบสแน่นดีเหลือกำลัง มีปุ่มคอนโทรลด้านบน ที่เห็นได้ถนัดชัดเจน

            คุณภาพในการแยกแยะความเป็นสเตอริโอค่อนข้างดี ถ้าหากว่าเรานั่งห่างลำโพงออกมาประมาณครึ่งเมตร ตรงนี้เราเรียกกันว่าฟังลำโพงแบบ Nearfield อันเป็นระยะหวังผลสูงสุด ต่อการแยกแยะเสียงที่มีเวทีเสียงกว้างลึก และมีอิมเมจพอสมควรสำหรับลำโพงไร้สายแบบนี้

            แต่ถ้าไม่ได้คาดหวังเรื่องการแยกเสียงสเตอริโอมากเกินไปนัก ก็สามารถนั่งฟังได้ห่างออกมาตามความชอบใจรวมทั้งขึ้นกลับระดับความดังที่เราเร่งเสียงให้กับลำโพงด้วย

            รุ่น VG1 ต้องบอกว่าเสียงมีพลังงดงามไม่ใช่เล่น แถมรายละเอียดทั้งทุ้มแหลมอิ่มเอม ฟังชื่นใจมากเลย เสียงของ VG1 ในระยะที่ฟังได้ดีที่สุด หมายถึงได้ไดนามิคของเสียง และรายละเอียดชิ้นดนตรีครบถ้วน ก็คือการนั่งห่างออกมาประมาณ 1 เมตรครึ่ง

            ส่วน VG3 สามารถนั่งห่างออกมาได้ถึง 2 เมตร ที่จะดื่มด่ำกับความสมบูรณ์ของเสียงเสมือนได้นั่งฟังเครื่องเสียงชุดหลัก แต่ถ้าขยับเข้าใกล้ จะได้ความเป็นสเตอริโอมากยิ่งขึ้นครับ

            ในทั้งสองรุ่นถ้านั่งห่างออกมามากกว่าที่ระบุไว้ ก็จะเป็นการฟังเพลงในแบบแบคกราวด์มิวสิคที่ดี และมีการกระจายเสียงที่เต็มอิ่มและเพลิดเพลินดี         

            คุณภาพในการแยกแยะความเป็นสเตอริโอค่อนข้างดี ถ้าหากว่าเรานั่งห่างลำโพงออกมาประมาณครึ่งเมตร ตรงนี้เราเรียกกันว่าฟังลำโพงแบบ Nearfield อันเป็นระยะหวังผลสูงสุดต่อการแยกแยะเสียงที่มีวิธีกว้างลึก และมีอิมเมจพอสมควร สำหรับลำโพงไร้สายแบบนี้

            แต่ถ้าไม่ได้คาดหวังเรื่องการแยกแยะสเตอริโอมากเกินไป ก็สามารถนั่งฟังได้ห่างตั้งความชอบใจ รวมทั้งขึ้นกับระดับความดังที่เราเร่งเสียงให้กับลำโพง

            ที่ต้องพิจารณาอีกเรื่องหนึ่งคือ ประสิทธิภาพการส่งสัญญาณไร้สาย   

            ระยะห่างระหว่างโทรศัพท์มือถือ และเครื่องเล่นวอล์คแมน ไฮเรส ที่เราจะส่งผ่านสัญญาณเข้าสู่ระบบบลูทูธ ถือว่าสำคัญไม่น้อย

            ลำโพง VG1 และ VG3 นั้น สามารถขยายเสียงออกมาดีเยี่ยม แม้จะมีต้นทางที่อยู่ห่างไกลออกไปเกิน 5 เมตร เป็นระยะที่ให้คุณภาพได้อย่างทรงประสิทธิภาพด้วยนะครับ

            คงเนื่องจากการเป็นระบบบลูทูธเวอร์ชั่นใหม่ ทำให้ส่งสัญญาณได้เสถียร และไกลมากยิ่งกว่าลำโพงบลูทูธรุ่นเก่าอย่างเห็นได้ชัด

            ผมสังเกตจากการที่ได้ทดลองเดินออกห่างจากลำโพงไปเรื่อยๆ เอาแบบว่า ถ้าหวังคุณภาพและประสิทธิภาพกันแล้ว ระยะห่าง 7 – 8 เมตรได้อย่างสบายๆ โดยที่ไม่มีผล effect แต่อย่างใด

            ซึ่งถ้าเป็นลำโพงบลูทูธอื่นๆ ที่ใช้เวอร์ชั่นดั้งเดิม ก็มักจะมีปัญหาการสะดุดของเสียงออกมาให้ได้ยินแล้วละครับ

            ทั้ง SoundCast VG1 และ SoundCast VG3 นั้น สามารถส่งสัญญาณไร้สายได้ไกลอย่างไร้ปัญหา ภายในรัศมีโดยรอบลำโพงห่างออกไปเกือบสิบเมตรแน่นอนครับ

         SoundCast VG1 และ VG3 นั้น ให้การรองรับการเชื่อมต่อในแบบไร้สายบลูทูธ ทั้งในรูปแบบของ AAC และ aptX Bluetooth โดยใช้ codec ที่มีระบบประมวลสัญญาณเสียงดิจิตอล 32 bit สำหรับ aptX เป็นกระบวนการเข้ารหัสสัญญาณเสียงบลูทูธที่รองรับคุณภาพเสียงได้อย่างใกล้เคียงแผ่นซีดีเลยทีเดียวครับ

            จึงมั่นใจในคุณภาพเสียง ที่ครบทั้งความถี่ เสียงเข้มข้นอิ่มแน่น อีกทั้งให้ระยะการส่งได้ไกลโดยไร้การรบกวน

            อีกทั้งการที่ผมใช้มือถือ Apple ในระบบ iOS ฟังเพลงที่คัดเลือกมาไว้อย่างสมบูรณ์ ก็รู้สึกได้ถึงคุณภาพเสียงที่มีรายละเอียดมากยิ่งขึ้น ทุกเพลงทุกสไตล์ เหมือนจำลองระบบเสียงขุดใหญ่มาย่อส่วนตรงหน้า

            ได้รับรายละเอียดที่น่าพึงพอใจตลอดระยะเวลาการทดสอบฟังของลำโพงทั้งสองคู่นี้ โดย VG3 จะดูทรงพลังจริงจังยิ่งขึ้น

            การได้รับลำโพงรุ่น VG1 และรุ่น VG3 มาอย่างละตู้ทำให้ผมไม่ได้ทดสอบการใช้ระบบ Qualcomm® TrueWireless™ Stereo (TWS) ที่สามารถแมตช์ลำโพงรุ่นเดียวกัน สองตู้ให้เชื่อมต่อกันแบบไร้สาย ในระบบเสียงสเตริโอได้

            แต่เท่าที่ลองฟังเสียงกันแบบตู้เดี่ยวๆ ก็ประทับใจมากอยู่แล้วครับ

            ปุ่มของลำโพงทั้งคู่ มีที่กดรับ และวางสายโทรศัพท์ได้ รวมทั้งปุ่มเพิ่ม หรือลดระดับเสียง และก็ยังมีฟังก์ชั่น ที่ใช้งาน ”คุณรู้มาก” Siri เพราะมีไมโครโฟนในตัวให้การรองรับการใช้งานร่วมกันได้ เรียกว่ามีประโยชน์ครบถ้วนจริงๆ

            แนะนำเลยครับว่า ระบบสตรีมมิ่ง TIDAL ให้ฟังคุณภาพระดับ lossless cd quality จะรู้สึกถึงคุณภาพที่เหนือชั้นกว่าการฟังในระบบอื่นๆ อยู่พอสมควร ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณภาพเสียงที่ได้จากลำโพงก็ขึ้นอยู่กับต้นแหล่งสัญญาณที่ท่านป้อนให้กับระบบลำโพง SoundCast VG1 และVG3 ด้วย

            อาจจะไม่ค่อยมีใครได้เคยลองต่อช่อง AUX ด้วยสายแจ็คมินิมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตรผมได้ทดสอบผ่านทางช่อง AUX เพื่อเปรียบเทียบกับระบบการส่งแบบไร้สาย แน่นอนครับระบบการใช้สายย่อมจะให้ความเข้มข้นน้ำหนักเสียง และความนิ่งของเสียง รวมทั้งการแยกแยะสเตอริโอแจ่มชัดดีกว่าในอีกระดับ ซึ่งรับฟังความแตกต่างได้โดยไม่ยาก

            แต่การเชื่อมต่อระบบไร้สายในปัจจุบัน อย่างที่ได้ทดสอบมานี้ก็ถือว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากไม่เคยคิดด้วยซ้ำไปว่าเราจะได้ฟังเสียงที่ดีถึงขนาดนี้ครับ

            สรุป SoundCast คล่องตัวมากสำหรับการฟังเพลงแบบไร้สาย เหมาะกับเพลงทุกประเภททุกสไตล์โดย เฉพาะเพลงยุคใหม่ทั้งหลาย เบสอิ่มหนักแน่นมาก เมื่อเปรียบเทียบลำโพงประเภทเดียวกัน ถือว่า SoundCast VG1 และ VG3 เบสเหนือกว่า ชัดเจนมากครับ

            สิ่งที่ต่างกันของ SoundCast VG1 และ VG3 ไม่ใช่แค่เพียงขนาด แต่พลังเบสต่างกัน ส่วนเสียงกลางแหลมจะเก็บตัวไม่ฉูดฉาด ฟังอย่างเรียบง่ายเหมือนกัน ให้เสียงที่กว้างขวางครอบคลุมพื้นที่ต่างกัน ฟังก์ชั่นการใช้งานใกล้เคียงกัน

            ลำโพง VG1 ราคา 4,400 บาท และ VG 3 ราคา 8,800 บาท            

นี่คือลำโพงไร้สาย ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์การฟังเพลงในปัจจุบันที่โดดเด่นที่สุด สองรุ่นที่จะต้องตรงใจคุณอย่างแน่นอน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท อัศวโสภณ จำกัด  โทร 02 266 8136-8

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here