FOCAL CHORA 806

โดย

5 มีนาคม 2020

4659

FOCAL CHORA 806

สง่างามบนขาตั้ง พลังแห่งดนตรี

สำหรับลำโพงที่เป็นศิลปะแห่งการออกแบบจากฝรั่งเศส ที่เคยทดสอบไปแล้วหนึ่งคู่ในซีรีส์ CHORA คือ รุ่น826

อย่างที่เรียนไว้แล้วว่าผมได้พยายามค้นหาลำโพงที่ดีที่สุดในแต่ละระดับราคาสมเหตุผล ให้กับแฟนคลับที่ให้ความเห็นกันมาอย่างต่อเนื่อง

และด้วยรูป หรือนามของลำโพงไฮเอ็นด์ที่กำลังมาแรงสุดคงไม่พ้น FOCAL จากฝรั่งเศส ซีรีส์ใหม่ลำโพงระดับไฮเอ็นด์ ที่เป็นมิตรกับกระเป๋าของเราอย่างจริงจังแถมยังผลิตในโรงงานฝรั่งเศสอีกด้วย

สำหรับลำโพง CHORA จาก Focal นั้น ออกแบบมา 3 รุ่นหลัก รุ่นวางขาตั้งคือ CHORA 806 ราคา 29,500 บาท รุ่นตั้งพื้น 2 รุ่น เรียงกันไป คือ CHORA 816 ราคา 59,500 บาท และรุ่นเรือธงของซีรีส์คือ CHORA 826 ราคา 69,500 บาท

แนวเสียงลำโพงที่ชัดเจน สดใสโอ่อ่า นำพาผู้ฟังเข้าสู่ความสมจริงของเสียง เป็นที่สุดแห่งความชัดเจน และรายละเอียดดนตรีทุกชิ้น ไม่ต้องมีเงินแสน เงินล้าน จึงจะสมปรารถนา เพราะ FOCAL เปิดตัวลำโพง ซีรีส์ CHORA Series ที่มีราคาต่ำกว่าแสนทั้งสิ้น คงบ่งบอกได้ว่า มันง่ายขึ้นเพียงใด สำหรับการเป็นเจ้าของ ลำโพง CHORA 806 ที่งามสง่า และเสียงดีเยี่ยม

คงต้องขอย้อนกลับไปดู เทคโนโลยีลำโพงกันสักหน่อยครับ

หลังจากที่ทุ่มเทกับการวิจัย และพัฒนามานานกว่าสี่ปี ในที่สุด FOCAL ก็ได้เผยโฉมเทคโนโลยีใหม่พร้อมด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในปี 2019 ที่ผ่านมา นั่นคือ กรวย Slatefiber

กรวยที่ผลิตในฝรั่งเศสนี้ มีลักษณะที่โดดเด่นด้วยเสียงที่มีพลังไดนามิค ให้รายละเอียด และมีความบาลานซ์ที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะในย่านมิดเรนจ์ ด้วยคุณภาพเสียงของตัวกรวยและ “slate effect” ที่มีลักษณะเฉพาะของมัน จึงกลายเป็นมาตรฐานของลำโพงชั้นแนวหน้าในกลุ่มราคาเดียวกัน

กรวยที่เป็นคอมโพสิตอย่างแท้จริง

ไดร์เวอร์แบบ Slatefiber นี้เป็นกรวยคอมโพสิตประกอบด้วยเส้นใยคาร์บอนรีไซเคิลที่ไม่ผ่านการถักทอ (recycled non-woven carbon fibres) ซึ่ง FOCAL เป็นแบรนด์แรกในวงการเครื่องเสียงที่ใช้เส้นใยคาร์บอนรีไซเคิล และเทอร์โมพลาสติกเป็นไดร์เวอร์ของลำโพง

ในการผสมผสานวัสดุสองอย่างนี้ส่งผลให้ได้ประสิทธิภาพเสียงที่ดีเยี่ยมในแง่ของความไว ตลอดจนความแข็งแกร่ง และการลดความสั่นไหวได้อย่างสมบูรณ์แบบ

มันคือความแข็งแกร่งที่น่าทึ่ง

เฉพาะเส้นใยคาร์บอนเพียงอย่างเดียวก็ให้คุณสมบัติที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ เหนือยิ่งกว่านั้นคือ เนื่องจากการจัดให้เส้นใยทั้งหมดหันไปในทิศทางเดียวกันจึงยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับไดร์เวอร์ลำโพงมากยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้ จึงรองรับเสียงเบสในย่านความถี่ต่ำได้ดียิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา

ผลต่อการซับความสั่นไหว

นอกจากเส้นใยคาร์บอนหันในทิศทางเดียวกันแล้ว เส้นใยเหล่านี้ยังไม่ผ่านการถักทอ เพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยให้ลดการสั่นไหวได้ดียิ่งขึ้น เทอร์โมพลาสติกโพลีเมอร์ที่แทรกอยู่ภายในเส้นใยจะช่วยสานเส้นใยเข้าด้วยกัน และเพิ่มการซับความสั่นไหวได้ดียิ่งขึ้น

กรวยที่มีน้ำหนักเบา

ในขั้นตอนการพัฒนานั้น FOCAL ได้ให้ความใส่ใจเรื่องน้ำหนักของกรวยเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มความไวให้สูงยิ่งขึ้น

เส้นใยคาร์บอนมีน้ำหนักที่เบามาก นอกเหนือจากเกณฑ์ความแข็งแรง และการดูดซับการสั่นไหวที่ได้มาตรฐานแล้ว ในด้านน้ำหนักที่เบาของตัวกรวย Slatefiber ยังเป็นไปตามข้อกำหนดของไดร์เวอร์ลำโพงอีกด้วย

ลำโพงซีรีส์ CHORA นี้ยังใช้ทวีตเตอร์ที่ล้ำสมัยอย่างยิ่ง จากนี้มาดูตัวขับเสียงแหลมที่ขึ้นชื่อลือชากันบ้าง

TNF เทคโนโลยีทวีตเตอร์ที่ก้าวล้ำไปในอนาคต

TNF Aluminium/Magnesium tweeter ให้เสียงแหลมที่นุ่ม และแม่นยำ

รอบๆ ตัวโดมทวีตเตอร์ใช้วัสดุเมโมรี่โฟมที่เรียกว่า Poron ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้มากจากทวีตเตอร์ Beryllium อันมีชื่อเสียงของลำโพงตระกูล Utopia ช่วยลดความเพี้ยนของเสียงถึงหนึ่งในสามระหว่างย่านความถี่ 2,000Hz ถึง 3,000Hz อันเป็นย่านความถี่ที่ไวต่อการได้ยินของหูเรา

ตัวโดมทวีตเตอร์แบบกลับด้าน (inverted ปกติตัวโดมจะนูนออก แต่ตัวขับเสียงแหลมแบบใหม่นี้จะเว้าเข้าซึ่งตรงข้ามกัน) ทำให้เสียงไปในทิศทางเดียวกัน และมีการกระจายในทิศทางที่แน่นอน จึงทำให้เสียงสูงได้ยินจากทุกจุดในห้อง

ประกอบเข้ากับการใช้ครอสโอเวอร์ไฮเอ็นด์เกรดที่แม่นยำในจุดตัดความถี่ ตัวตู้โครงสร้าง MDF แกร่งที่สุด และขารองลำโพงด้านใต้ จะมีมุมแหงน 4 องศา เพื่อให้การกระจายเสียงสม่ำเสมอ เกิดเวทีเสียงกว้างขวาง จัดการเซ็ตอัพได้ลงตัวง่ายขึ้น

CHORA 806 คือลำโพงแบบเบสรีเฟล็กซ์ ลำโพงวางหิ้ง 2 ทาง รุ่นใหม่ล่าสุด Made in France มี 3 สีทั้ง Black, Light Wood, Dark Wood ออกแบบให้มีความไวสูงมาก คือ Sensitivity (2,83V/1m) ที่ 89dB ค่าความต้านทาน 8 โอห์ม ใช้ตัวขับแบบใหม่แบบ Slatefiber โคนขนาด 6 นิ้วครึ่ง และทวีตเตอร์โดม TNF Al/Mg inverted dome tweeter ขนาด 1 นิ้ว

ให้ความความเที่ยงตรงเสียงสูงสุด มีพอร์ตด้านหน้าที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ช่วยลดความผิดเพี้ยน และให้เสียงเบสได้มากยิ่งขึ้น

ส่วนขนาดตู้ถือว่าเป็นลำโพงขนาดกลาง มีหน้ากว้าง 21 ซม. สูง 21 ซม. และลึก 27 ซม.

On test

ทรงลำโพงสามารถวางตรงกับขาตั้งทั่วไป หรือขาของตนเองที่เอน 4 องศา ด้วยการขันสกรูยึดติด ตัวตู้แข็งแกร่ง และมีตราโลโก้แบบโลหะเงินติดด้านบน เท่ห์ดีทีเดียว ระบบขั้วต่อแบบ Single Wired สายเดี่ยวที่ดูดีมาก

สิ่งที่ไม่เหมือนใครเลยที่เราเห็นจากลำโพงคู่นี้ก็คือ ขาตั้งของมันรวมทั้งระบบ CHORA 806 จะทำให้ลำโพงนั้นมีลักษณะตั้งเอนไปทางด้านหลัง 4 องศา เช่นเดียวกับรุ่น CHORA 826 ที่เป็นระบบตั้งพื้น ซึ่งทำให้มุมของการกระจายเสียงนั้นกว้างมากยิ่งขึ้น เสียงที่ได้จะมีแนวองศายิงตรงมายังผู้ฟังได้อย่างแม่นยำ เราเรียกวิธีการนี้ว่า เป็นการคุมเฟสเสียงแบบไทม์อะไลน์เม้นท์ คือให้เสียงกลางแหลม และเสียงทุ้มมีจุดต้นกำเนิดเสียงให้มีความใกล้เคียงกัน

ขาตั้งของ CHORA 806 นั้นขายแยกต่างหากก็จริง แต่แนะนำเลยว่าควรใช้ของมันเอง เป็นขาตั้งไม้มวลเบา มีสนนราคา 8,900.- บาท นำมาขัดสกรูติดด้านใต้ฐานลำโพงให้แน่นหนา ก็ถือว่าลงตัวเหมาะสมดี และราคาก็สมเหตุผล

มีสิ่งที่ต้องบอกตั้งแต่เริ่มต้นก็คือ ตู้ลำโพงจะมีหน้ากากครอบผ้าทรงกลมเท่ากับตัวมิดเรนจ์วูฟเฟอร์ ติดกับแบบเฟิ่ล ด้วยระบบแม่เหล็ก แต่มีโอกาสหลุดหลวมได้ เมื่อเจอพลังขับแรงๆ ดังนั้น ข้อแนะนำคือ เวลาฟัง จงถอดหน้ากากออกเสมอ

แม้แต่การฟังแผ่วเบา การเปิดหน้ากากทรงกลมออก ก็ได้เสียงที่ดีกว่านะครับ เมื่อวัดกันที่รายละเอียดแล้วความกว้างลึกแม่นยำเสียงก็ดียิ่งกว่าด้วย ลำโพงจึงดีไซน์หน้ากากมาครอบเฉพาะในตอนที่เราไม่ได้เล่นมันนานๆ

แอมป์ที่ผมนำมาเป็นหลักในการขับเสียง ก็คือ MICROMEGA M-One รุ่น M-100 และ M-150 มากับกำลังขับ 100 วัตต์ มีภาคปรีโฟโนในตัว รวมทั้งระบบการเล่นเพลงสตรีมมิ่งครบถ้วนเลยทีเดียว

เครื่องเล่น CD KRELL CD 250 เครื่องเล่นแผ่นเสียง Linn LP12 นำมาเปรียบเทียบบางช่วงการทดสอบ แต่จะเน้นที่แผ่น CD

ลำโพงคู่นี้ต้องการการเบิร์นไม่ต่ำกว่า 100 ถึง 150 ชั่วโมงอย่างแน่นอนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผมได้ใช้เวลาเบิร์นไปเรื่อยๆ นานเลยทีเดียวก็คือเบิร์นถึง 200 ชั่วโมง เพื่อให้ลำโพงนั้นมีความนิ่ง และมีความมั่นใจว่ามันอยู่ตัวอย่างเต็มที่แล้ว

จากการทดสอบครั้งนี้ ผมตั้งลำโพงภายในห้องทดสอบขนาด 4×7 เมตร โดยวางลำโพงซ้ายขวา ห่างกัน1.75 ห่างผนังหลัง 1.6 0เมตร ห่างด้านข้าง ประมาณ 65 ซม. ได้ทั้งความเข้มข้นของเสียง และเวทีเสียงที่เด่น เปิดกว้าง

อาจจะถือว่าพอดีที่สุดในห้องทดสอบของผม ส่วนห้องของท่านนักฟังโดยทั่วไป สามารถปรับตามความเหมาะสมได้

ขาตั้งไม้มวลเบาของ FOCAL CHORA 806 นั้น วางลักษณะองศาตรงต้องกับการออกแบบ คือจัดเฟสเสียงแหลมทุ้มให้สมดุล เสียงจะออกมาราบรื่นในบุคลิกที่ผู้ออกแบบต้องการ ต่อเมื่อใช้ขาตั้งโลหะ ของLovan Afiniti และ ATACAMA เสียงก็จะแตกต่างออกไปในอีกแบบ แต่ที่น่ายินดีคือ มันไม่มีผลถึงขนาดให้ลำโพงเสียงแปรเปลี่ยนไปอีกแบบ

หมายความว่าบุคลิกยังเป็นในแบบ CHORA 806 เพียงแต่ขาตั้งของมันเองเสียงจะอบอุ่น นุ่มนวลกว่าขาตั้งโลหะ ทำให้เสียงกลางเดินหน้าออกมาเล็กน้อย และเสียงต่ำมีมวลที่หนักหน่วงขึ้น ดังนั้น ท่านสามารถตัดสินใจได้ครับ ว่าจะใช้ขาตั้งแบบใด สำหรับส่วนตัวผมชื่นชอบ ขาตั้งของเขาเอง อาจจะเรื่องคุมดุลของเสียงได้ดีที่สุด

การเบิร์น เอาแบบว่า ลงตัวจริงๆ ก็ควรพ้น 150 ชั่วโมง นะครับ จึงจะถือว่า ทุกอย่างมีความพร้อมเต็มที่

บุคลิกเสียงใกล้เคียงกับรุ่นใหญ่ตั้งพื้น CHORA 826 ที่ผมได้ทดสอบไปก่อนหน้านี้ แทบจะถอดพิมพ์มาเลย เว้นเสียงต่ำลึกแล้ว ก็ต้องนับว่า CHORA 806 กับ 826 แทบเป็นฝาแฝดกันครับ

ให้ความเด็ดขาดมากในเรื่องความโปร่งใส ให้รายละเอียดในช่วงปลายเสียง ได้โดดเด่นสดใสน่าทึ่ง เป็นเหมือนเอกลักษณ์ที่บ่งว่า นี่แหละคือความเปิดเผยโอ่อ่า ในแบบที่ FOCAL ทุกรุ่นเป็นอยู่

ในการออกแบบให้ลำโพงมีมุมแหงนเงยที่ ประมาณ 4 องศาทำให้การกระจายเสียงทั้งสองแนวคือแนวราบและแนวดิ่ง กว้างขวางและให้เวทีเสียงที่ดี และสมดุลมากขึ้น

ผมชอบในแง่ของ Sound Stage เพิ่มความกว้างลึกมากกว่าลำโพงทั่วไปเห็นได้ชัดมากทีเดียว เสียงแบบหลุดตู้ สมจริงในแบบที่ FOCAL เป็นมาตลอด

จากอัลบั้มซีดีหลักๆ ที่ผมฟังทดสอบเสมอ เริ่มจาก CD 29 Sheffield LAb Let It Go ฟังกันย้ำๆ กับ Lonly Night ตามด้วย CD 13 Lincoln Mayorga & Amanda McBroom ชุด Growing Up in Hollywood Town ที่จัดเป็นเพลงครู ในการทดสอบทั้งดนตรี เสียงร้อง เวทีเสียง และจุดตำแหน่งในการบันทึกเสียง

และผมไม่ลืมนำเอา อัลบั้มหลัก ที่ผมเน้นทดสอบฟังครั้งที่แล้วกับ CHORA 826 คือ Burmester: Art for Ear CDll มาในรูปของแผ่นซีดี มาร่วมด้วย เพลิดเพลิน สนุก คึกคักเร้าใจในความเป็นดนตรีอย่างยิ่งครับ

เป็นความอิ่มเอมในการฟังเพลง มีความชัดเจน จึงกล้าพูดว่าเป็นความน่าสนใจมากที่ CHORA เป็นตระกูลลำโพง ที่มีเสียงถอดแบบมาอย่างใกล้เคียงลำโพงรุ่นไฮเอ็นด์ของเขาด้วยซ้ำไป เพียงแต่ราคาย่อมเยากว่า

จุดสำคัญคือการพัฒนาเทคโนโลยีตัวขับประสิทธิภาพสูงใหม่ทั้งหมด ให้มีต้นทุนที่เหมาะสม ใช้โครงลำโพงด้วย MDF และผิวลำโพงไม่ได้ใช้ผิววีเนียร์ไม้จริง

อาจจะด้อยไปแค่จุดเดียว แต่พื้นผิวรูปทรงภายนอกก็ยังรักษาความสง่างามของลำโพงฝรั่งเศสชั้นแนวหน้าไว้ได้ดีเหมือนเดิม

ในเรื่องคุณภาพเสียง ต้องถือว่าเป็นความสำเร็จที่ดีเยี่ยม ให้ความรู้สึกของดนตรีจริงที่มาแสดงอยู่เบื้องหน้า ผมชอบเสียงที่เปิดกว้าง และจริงจัง เสมอต้นเสมอปลาย ลีลาดนตรี เสียงร้อง ลอยเด่นหลุดพ้นกรอบตู้ ลึกซึ้งทั้งสดใส สะอาด เร้าใจ มีชีวิตชีวา

เป็นลำโพงที่ขับเสียงได้ง่าย แค่กำลังขับพื้นๆ ไม่ต้องเร่งระดับมากนัก ก็ให้เสียงเต็มอิ่ม เป็นเสียงที่ปราศจากม่านหมอกมัวมนใดๆ โอ่อ่าเปิดกว้างหลุดลอย เสียงร้องเด่น และสะอาดเกลี้ยงเกลาน่าประทับใจ

แม้แต่พลังของเพลงที่ไดนามิคแรงๆ ที่ผมหยิบแผ่นมาทดลอง ช่วงท้ายๆ การฟังอย่าง Round Up II ทำให้เห็นถึงความเหมาะสมของลำโพงที่จะสนองตอบพลังดนตรีได้อย่างไม่มีข้อจำกัดให้บรรยากาศเสียงที่ทั้งโรแมนติกทรงเสน่ห์ และไดนามิคสูงต่ำสุดขีดตัวโน๊ตได้ดีครบถ้วน

และที่บอกตรงไปตรงมาได้เลยว่า นี่แหละ สิ่งที่ต้องการ ในคุณภาพและราคาที่ลงตัวจริงๆ

ผมใช้แอมป์ MICROMEGA M100 ดูจะเข้าคู่กันได้ดีมากๆ ด้วยพลังขับ 100 วัตต์ เต็มๆ เสียงสะอาดเต็มอิ่มไปด้วยกันกับ FOCL CHORA 806

นี่คืออีกทางเลือกหนึ่งซึ่งคิดว่าเหมาะสมกับนักเล่นเครื่องเสียงที่อยากเริ่มต้นด้วยลำโพงที่ดีมากๆสักคู่หนึ่ง โดยมีงบประมาณจำกัดไว้ที่ไม่เกิน 40,000 บาทรวมขาตั้งของมันเองเสร็จสรรพ

ที่สำคัญเป็นลำโพง Made in France ครับ!

แนะนำสถานที่ทดลองฟัง FOCAL CHORA Series

https://store.focal.com/en/store-locator#!country=TH

กรุงเทพ :

: AV VALUE 092-246-8033

: CLASSIK 02-664-8867

: GXOTIC Cinema 080-987-9999

: HD HiFi 064-989-1936

: HI-END Audio 02-101-1988

: HI STYLE HIFI 097-228-9181

: LENN SHOP 02-720-2714

: NOTT NATIVE 086-942-4295