ROTEL RA-6000

พลังและรายละเอียดที่สมบูรณ์

           นี่คือการออกแบบเพื่อก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่งของ ROTEL เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปี ทำให้เครื่องเสียงซีรีส์ Diamond Series นี้ เดินเข้าไปชิดกับคุณสมบัติไฮเอ็นด์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งคือ ROTEL MICHI เพราะเหตุที่การออกแบบ RA-6000 ได้คัดสรร ทั้งเทคโนโลยี องค์ประกอบด้านวัสดุอุปกรณ์ และวางรูปแบบการใช้งานเผื่ออนาคตล้ำสมัยของสตรีมมิ่งออดิโอด้วย

            RA-6000 ออกวางตลาดมาพร้อมกับเครื่องเล่น CD Model DT-6000 อันเป็นการรวมไว้ซึ่งองค์ประกอบ DAC Transport และ Digital-to-Analogue Converter อยู่ภายในโครงสร้างตัวถังเดียวกัน ถ้าหากจับคู่ระหว่างแอมปลิไฟร์ RA-6000 กับ DT-6000 ก็จะยิ่งเสมือนเป็นซิสเต็มหนึ่งเดียวกันมาตั้งแต่ต้น

            Diamond Series นี้ จะว่าไปแล้วก็คือซีรีส์ที่อยู่ชิดติดกับตระกูล MICHI ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่ม Hi-End ดังนั้นรูปทรงโครงสร้าง และรายละเอียดต่างๆ ของ RA-6000 อินทิเกรเต็ดแอมป์จึงงดงามประณีตยิ่ง ในครั้งนี้ผมได้มีโอกาสลองเล่นและทดสอบ RA-6000 เป็นการเฉพาะ ที่จะนำมาสรุปให้ได้อ่านกันดังต่อไปนี้

            ROTEL RA-6000 ออกแบบโดยใช้วงจรและอุปกรณ์ของตนเองโดยเฉพาะ แน่นอนว่าทุกสิ่งผลิตขึ้นโดยประณีตที่โรงงานของ ROTEL เป็นส่วนใหญ่ อุปกรณ์เกรด A เหล่านี้ทำให้เรามั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ RA-6000 จะมีศักยภาพอย่างสูงสุด เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีอย่างทรงคุณค่า

            วงจรขยายแบบคลาส AB ที่สามารถให้พละกำลังสูงถึง 350 Wrms ที่โหลด 4 โอห์ม หรือ 200 Wrms ที่โหลด 8 โอห์ม ให้การตอบสนองความถี่กว้างมาก ตั้งแต่ 10Hz-100kHz (± 0.5dB) แดมปิ้งแฟคเตอร์ที่ 600 เลยทีเดียว แสดงถึงอัตราในการควบคุมลำโพงได้ยอดเยี่ยมมาก ขนาดเครื่องมาตรฐาน 17 × 5.7 × 16 นิ้ว น้ำหนักเอาเรื่องทีเดียวคือเฉียด 19 กิโลกรัม

            ในการออกแบบครั้งนี้ยังได้ ผนวกภาค DAC ของ Teas Instrument Premium 32-bit/384kHz Digital-to-Analogue Converter มาในตัว ดังนั้นนอกจากเป็นอินทิเกรเต็ดขยายเสียงแบบอนาล็อก (มีปรีโฟโน หัวเข็ม MM) แล้ว ยังเป็น DAC คุณภาพสูงสำหรับระบบดิจิตอลอีกด้วย

            ในวงจรภาคจ่ายไฟนั้น ได้เลือกใช้ทรานสฟอร์เมอร์วงแหวน Toroidal ขนาดใหญ่ ซึ่งทำการออกแบบและผลิตขึ้นมาในโรงงานของ ROTEL แบบแฮนด์เมด อีกทั้งในส่วนของภาคดิจิตอล จะรองรับการสตรีมความละเอียดเสียงได้สูงถึงระดับ 24-bit/192kHz มีระบบเอื้ออำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อ PC-USB Input ด้วย USB Audio Class 2.0 ที่รองรับได้ถึง 32-bit/384kHz เหมาะอย่างยิ่งกับไฟล์เสียงรายละเอียดสูงแบบ Hi-Res Audio สามารถใช้งานร่วมกับระบบสตรีมมิ่ง มัลติรูมระบบ Roon แบบ Fully Certified Roon Tested ได้อีกต่างหาก นับว่าพร้อมครบจบในเครื่องเดียว

           ผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงจากสตรีมมิ่ง และแผ่นซีดีรายละเอียดสูง ที่ผนวกบิตเรต และการถอดรหัส MQA CD คงจะได้สัมผัสเสียงแบบ MQA : Master Quality Authenticated และ MQA Studio (24-bit/384kHz) ได้เต็มประสิทธิภาพ เมื่อส่งผ่านดิจิตอลเอาต์พุตให้กับ RA-6000 ได้ทำงานในภาค DAC

            ผมชอบหน้าปัดขนาดกะทัดรัดสวยงาม ด้วยดิจิตอลดิสเพลย์ ตัวอักษร 2 ชั้น ซึ่งทุกระบบสั่งงานได้ทั้งจากปุ่มเล็กๆ ที่แผงหน้าปัด และรีโมตคอนโทรล ได้ครบทุกฟังก์ชั่น และที่เด็ดไปกว่านั้นคือ สามารถนำเครื่องเล่นภาคไลน์ ที่มีระบบบาลานซ์ XLR มาต่อเชื่อมได้ นับว่าออกแบบได้อย่างโปรเฟสชั่นแนลมาก

            มีการเตรียมเผื่ออนาคตข้างหน้า คือคุณสามารถนำเอา RA-6000 มาใช้งานเฉพาะภาคปรีแอมป์ จากการส่งผ่านทาง Pre-Out เพื่อเชื่อมเพาเวอร์แอมป์ภายนอกเพื่อขยายขอบเขตของการทำงานให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

Test Report

            การทดสอบผมจะเน้นมากที่สุด คือการแมตชิ่งลำโพงให้ครบถ้วนว่า RA-6000 ขับเสียงลำโพงได้กว้างขวางเพียงใด โดยใช้แหล่งโปรแกรมทั้งสตรีมมิ่ง จาก Bluesound ที่ดูจะทำงานได้ง่าย สะดวก ไม่มีข้อจำกัดกับแอมปลิไฟร์ใดๆ และบางครั้งทดลองใช้ไฟล์เพลงผ่านทาง USB  หรือวันทำงานก็ส่งผ่านทาง Bluetooth แต่ที่ถนัดถนี่และชอบเป็นพิเศษคือ การเล่นกับเครื่องเล่นซีดี แล้วเทียบเคียงระหว่าง ภาค DAC ในตัวเครื่องเล่นซีดี ระดับห้าหมื่นบาท กับ DAC ในตัวของ ROTEL RA-6000

            สุดท้ายนำเอา ELAC Miracord 90 มาต่อภาค Phono

            ลำโพงหลักๆ ที่ผมนำมาใช้สำหรับงานทดสอบ มีดังนี้ ELAC BS 244.3, Rogers, LS3/5 A classic, Rogers LS 5/9 Classic, Bowers&Wilkins 805 D3, Harbeth LS5/12 A, Revival Audio ATALANTE 3 และ Monitor Audio Silver 100 Limited Edition

            โดยสรุป เรื่องน้ำเสียง ยังไม่ทิ้งสไตล์ ROTEL ที่มีเอกลักษณ์ ชัดใสโปร่ง แต่ความราบรื่นและรายละเอียดที่น่าประทับใจมาก ใกล้เคียงมาทางแอมป์ MICHI เลยทีเดียวครับ! ผมชอบความสามารถในการควบคุมอัตราสะวิง ของช่วงดนตรีโหมกระหน่ำ เป็นไม่กี่ครั้งหรอก ที่เราได้ฟังแทร็กเสียงของวง ซินซินเนติ พ็อพออเคสตร้า On the Beautiful Blue Danube Waltz, Op.314 ได้สนุกเร้าใจ เปิดเผยทุกรายละเอียดได้ขนาดนี้ เรียกว่าเสียงสะกดใจ เลยทีเดียว ทำให้การเปิดใจฟังเพลงทุกแนวได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น POP Jazz Country New age และอื่นๆ ฟังสลับไปมาควบกัน ทั้งสตรีมมิ่งและอนาล็อก และขอบอกว่าการฟังกับภาคปรี Phono ถือว่าโอเค เลยทีเดียวครับ เสียงสะอาด มีความอิ่มเอมในแบบอนาล็อก ที่น่าพึงพอใจ

            ความเปิดโปร่งช่วงบน คือเลยจากช่วงเสียงกลางขึ้นไป ถือว่าการทอดยาวของเสียง มีความละเอียดสวยงาม ให้เวที หรือ Sound Stage เปิดกว้าง ฟังอัลบั้มเพลงร้อง รู้สึกถึงความกระจ่างเสียงร้อง และช่วงมิดเร้นจ์ได้แบบว่า ดีงามเลยทีเดียว

            ใครชอบเพลงร้องแนวสุภาพสตรีอย่าง Hunter : Jennifer Warnes, Breaking Silence : Janis Ian, Don’t Smoke in Bed : Holly Cole Trio คงต้องพึงใจเป็นอย่างมากครับ

            ดีเด่นมากๆ ในแง่ของภาคขยายเสียง นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราได้ฟังอินทิเกรเต็ดแอมป์ ในระดับราคา แสนกลาง ที่ให้ภาพลักษณ์ของเสียงดนตรีได้เฉียดใกล้ความจริงอย่างยิ่ง แม้ว่าจะไม่มีการปรับ Tone Control ทุ้มแหลมเลยก็ตาม

              เปรียบเทียบความเหมาะสมในการใช้กับแหล่งโปรแกรม ที่มีความแตกต่างกันในเรื่องที่มา ทั้ง Streaming และโปรแกรมอนาล็อกแผ่นเสียง ซีดี และการส่งสัญญาณผ่านบลูทูธ ก็จะมีความต่างกันอยู่บ้าง

            ขึ้นอยู่กับอัลบั้มเพลง ความประณีตของเพลงที่ผ่านการบันทึกจากสตูดิโอมาอย่างไร ถ้าพูดถึงบุคลิกหรือน้ำเสียงก็จะยังคงมีความใกล้เคียงกัน

            แต่เรียงลำดับที่ผมชอบ ยกให้การฟังเพลงจากแผ่นซีดีผ่าน DAC ในตัว ROTEL RA-6000 จะให้ความประทับใจสูงสุด รองลงไปคือ Streaming และอนาล็อกแผ่นเสียงครับ

            ROTEL RA-6000 เป็นแอมป์ซึ่งให้พละกำลังได้ทั้งอ่อนหวาน และหนักหน่วง อย่างชนิดที่จะหาแอมป์อื่นๆ เทียบเคียงได้ยาก เป็นการให้ครบทุกรสชาติของเสียงดนตรี และเมื่อเปรียบเทียบกับแอมป์รุ่นที่ผมเคยฟังอย่างเช่น ROTEL RA-1572 MK II และ ROTEL RA-1592 ที่เคยเป็นตัวท็อปสุด ก็จะรู้สึกว่า RA-6000 Diamond Series นั้นเหมือนให้รายละเอียดที่ทะลุเพดานได้มากกว่า ควบคุมลำโพงอย่างแม่นยำมากกว่า อีกทั้งสไตล์เสียง มีความใกล้เคียงกับ MICHI X5 ค่อนข้างจะมากเลยทีเดียวครับ

            จุดเด่นที่สุดคือ ภาค DAC ครับ เสียงละเอียดระยิบระยับน่าฟังมากมายเลยทีเดียว และความสามารถในการควบคุมลำโพงทุกคู่ที่เรานำมาใช้ทดสอบ ต้องถือว่าเป็นแอมป์ราคาระดับหนึ่งแสนหกหมื่นบาท แบบเต็งหนึ่งเลยทีเดียว

            ถือว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหาของขวัญชั้นดีให้กับตัวเอง ด้วยอินทิเกรเต็ดแอมป์สักเครื่องหนึ่ง นับเป็นการเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยม ถ้านึกถึงรายละเอียดและพลังที่สมบูรณ์ ROTEL RA-6000 คือคำตอบของคุณ

             ส่วนเรื่องของราคานั้นโปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้แทนจำหน่ายในเครือของ Zonic Vision ได้เลยครับ

ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Zonic Vision โทร 02-681-7500

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here