KEF T205

Home Theatre Speaker System

ไลฟ์สไตล์สง่างามในดีไซน์บางเฉียบ

           สำหรับ T Series เป็นอีกระดับหนึ่งของแนวคิดออกแบบดีไซน์ อันยอดเยี่ยมจาก KEF แห่งสหราชอาณาจักร ผู้ผลิตลำโพงระดับโลก ด้วยรูปทรงลำโพงแบนบางกลมกลืนไปกับทุกสภาพแวดล้อมได้อย่างลงตัว เหมาะอย่างยิ่งกับระบบโฮมเธียเตอร์ ที่ต้องการคุณภาพเสียงดีเยี่ยม

            แต่ดีไซน์นี้ จะนำพาทุกอย่างหลุดออกไปจากกรอบเดิมๆ แบบไม่เหลือร่องรอยของลำโพงใหญ่โตเทอะทะเหลืออยู่แม้แต่นิดเดียว

            ต้องเรียกว่า พลิกตำราดีไซน์ลำโพงกันเลยทีเดียว

           อันที่จริงแล้ว ลำโพงโฮมเธียเตอร์ชุด T Series จะมีทั้งหมดสามชุด อันเกิดจากการจัดเอาลำโพงในซีรีส์แต่ละรุ่นมารวมกัน โดยจัดชุดเป็นสามซิสเต็ม คือ T305, T205 และ T105

            ถ้าเราพิเคราะห์ให้ละเอียดจะพบว่า T Series นั้น KEF ออกแบบลำโพงอย่างชาญฉลาด แบ่งเป็นดีไซน์สามรูปแบบ รวม 5 โมเดล ได้แก่

– คู่หลักเป็นแซทเทิลไลท์ 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น T301 (รุ่นใหญ่) และ T101 ที่เป็นรุ่นเล็ก

– ลำโพงเซ็นเตอร์สองรุ่น ต่างขนาดกัน คือ T301c (รุ่นใหญ่) และรุ่น T101c ซึ่งเป็นรุ่นเล็ก

– ลำโพงแบบแอคทีฟซับวูฟเฟอร์ที่ยิงเสียงตรงมาด้านหน้า หรือ Front Active Subwoofer หนึ่งโมเดล คือ T2

            ในการจัดเป็นเซ็ตระบบเสียงแบบ 5.1 ก็คือ การนำลำโพงทั้ง 5 รุ่น มาจัดชุดตามความเหมาะสม สำหรับการใช้งาน โดยชุดที่เรานำมาทดสอบนี้ จะเป็นลำโพงในซิสเต็ม ที่ประกอบด้วย T301, T101, T301c และ T2 Subwoofer รวมกันเป็นชุด KEF T205 นั่นเอง

           ก่อนที่จะลงไปดูรายละเอียดของแต่ละรุ่น เรามาดูการออกแบบลำโพง “นอกกรอบ”เดิมๆ ที่ KEF ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง สร้างตัวขับเสียงให้มีความแบนบาง เพื่อจะใช้กับตัวตู้ทรง Slim บางอย่างเหลือเชื่อนี้กันครับ

           เพราะถ้าจะทำทรงตู้บาง ก็จะต้องใช้ไดรเวอร์ ที่บางเฉียบเช่นเดียวกัน และยังคงต้องเป็นไปตามหลักปรัชญาคือ เสียงต้องสามารถให้ความทรงพลังเช่นเดียวกับลำโพงซีรีส์อื่นๆ ของ KEF ในครั้งนี้จึงต้องใช้เทคโนโลยีที่สูงมาก

           ไดรเวอร์มิดเร้นจ์ / วูฟเฟอร์สำหรับนำมาใช้กับลำโพง T Series ทั้งหมดนั้น KEF ออกแบบไดอะแฟรม Twin Layered MF Driver ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4.5 นิ้ว แบบแบนราบ โดยมีวัสดุพิเศษสองชั้นสำหรับผลักอากาศอย่างสมมาตรเป็นพิเศษ มีขอบเซอร์ราวด์  Z-Flex Surround ที่คิดค้นใหม่แบบเป็นยางเกรดสูง ที่สามารถยึดกับไดอาเฟรมอย่างชนิดที่เรียกว่าผนึกแทบเป็นเนื้อเดียวกันเลยทีเดียว

            ตัวขับชุดนี้จึงให้พละกำลังในการขับเสียงกลางต่ำได้อย่างฉับไวแม่นยำ ทนต่อแรงกระแทกกระทั้นได้อย่างมหาศาล ในขณะที่รูปทรงแบนบางอย่างเหลือเชื่อ

            ทวีตเตอร์แบบโดม 25 มิลลิเมตร ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ เทียบเคียงได้กับที่ใช้อยู่ในลำโพงซีรีส์ Reference Series เป็นตัวขับเสียงแหลมที่มีลักษณะพิเศษ ด้วยการใส่เว็บไกด์แบบเจ็ดแฉก เพื่อกระจายเสียงด้านหน้าให้ได้กว้างขวาง รายละเอียดครบครัน และด้านหลังนั้น มีช่องระบายอากาศ เพื่อให้การทำงานปลอดโปร่ง ลดแรงดันของอากาศด้านหลังของโดมที่จะกระทำต่อตัวทวีตเตอร์ เมื่อมีสัญญาณเสียงผลักออกมา

           เป็นกรรมวิธีการออกแบบยอดเยี่ยมมาก ทวีตเตอร์ชุด T Series จึงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่าทวีตเตอร์แบบอื่นๆ

            ส่วน T2 Active Subwoofer มีรูปทรงแบนบางเพียง 1/3 ของซับวูฟเฟอร์ทั่วไป ออกแบบมาร่วมกับแอมป์ Class-D ขนาดกำลังขับ 250 วัตต์ในตัวเอง ให้เสียงทรงพลัง มีความดังสูงสุดได้ถึง 110 ดีบี ใช้ตัวขับเสียงแบบกรวยขนาด 10 นิ้ว ขอบยางโดยรอบเซอร์ราวด์ กว้างหนึ่งนิ้ว นับว่าบึกบึนสุดๆ แต่ออกแบบได้เยี่ยมมาก เพราะตัวขับเสียงต่ำมีความหนาของตัวกรวยไม่น่าจะมากไปกว่า 15 เซนติเมตร เพราะตัวตู้กำหนดความหนาในแนวตั้งเพียง 17.5 เซนติเมตร!!!

           ซับวูฟเฟอร์ T2 นั้นมีจุดตัดความถี่ฟิกซ์ ไว้ที่ 250Hz เพื่อให้เหมาะสมกับลำโพงเมนหลัก ที่ขับเสียงกลางแหลมในซิสเต็ม T Series โดยการตอบสนองต่อย่านความถี่ลงไปได้ลึกถึง 30Hz เลยทีเดียว เนื่องจากการออกแบบให้ตัวตู้มีความเพรียวบางกินเนื้อที่จัดวางน้อย ทาง KEF จึงได้ใส่ฟังก์ชั่นในการตัดความถี่เสียง และการปรับแต่งอยู่ด้านใต้ของตู้ ซึ่งเราจะต้องพลิกขึ้นมาเพื่อจัดเซ็ตอัพ อาจจะดูเหมือนไม่ค่อยสะดวกนัก ในช่วงแรกๆ ของการเซ็ตอัพ

            แต่จุดปรับใช้งานก็มีเท่าที่จำเป็น คือปุ่มปิดเปิดเพาเวอร์ ช่องเสียบต่อสายไฟ จุดต่ออินพุตแบบ RCA มาจากช่อง SUB ของรีซีพเวอร์ และสวิตช์เลือกปรับค่า 3 ชุด 

– ปรับระดับเสียงเบส Bass Boost ที่ 0dB /+6dB/+12dB

– ปรับเฟสของเบสเดินหน้า หรือถอยหลัง Phase 0 และ -180 องศา

– ปรับการ ปิด-เปิด เพาเวอร์ (Power) ได้สองแบบคือ Auto ทำงานเมื่อมีสัญญาณเข้า หรือ Manual แนะนำว่าถ้าใช้งานต่อเนื่องทุกวัน ควรผลักสวิตช์ไปที่ Auto จะสะดวกมากกว่า

            KEF T205 เป็นชุดลำโพงที่ออกแบบอย่างชาญฉลาด เริ่มได้จากระบบเสียงรอบทิศพื้นฐานแบบ 5.1 Channel จนถึงระบบ Dolby Atmos ที่สามารถเสริมแชนแนลลำโพงได้ตามความต้องการ เพราะเป็นลำโพงแบบแซทเทิลไลท์ 3 รุ่นหลัก เพื่อแชนแนลหน้า เซ็นเตอร์ เซอร์ราวด์ และเสียงรอบทิศ ถ้าต้องการขยายจำนวนแชนแนล ก็เสริมได้ไม่จำกัด โดยมีแอคทีฟซับวูฟเฟอร์ ที่พร้อมเสริมความถี่ต่ำให้ได้ความทรงพลัง เต็มอิ่ม

            ชุดลำโพงโฮมเธียเตอร์ KEF T205 ที่มีความบาง Ultra – Slim เหมาะสำหรับจัดวาง ติดขาตั้งแบบต่ำหรือสูง (เลือกได้) หรือติดผนังได้อย่างกลมกลืน ซึ่งในชุดของ T205 นั้น ประกอบด้วย

           T301 Satellite Speaker รุ่นใหญ่สุด เหมาะสำหรับทำลำโพงคู่หน้า มีดีไซน์รูปทรงสลิม ซึ่ง KEF ได้ใช้เทคโนโลยีการออกแบบตัวขับเสียงอันล้ำยุค เพื่อให้สามารถกระจายเสียงแบบสามมิติครบถ้วน ทวีตเตอร์ขับเสียงแหลมประสิทธิภาพสูง ขนาด 25 มิลลิเมตร หรือ 1 นิ้ว ถูกจัดวางตำแหน่งตรงศูนย์กลางตู้ โดยมีวูฟเฟอร์ทรงแบน ขนาด 115 มม. หรือ 4.5 นิ้ว สองตัวคู่ วางประกบด้านบนและล่าง เพื่อขับเสียงย่านความถี่มิดเร้นจ์ และความถี่ต่ำอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ (ราคา 35,900.- บาท)

           ข้อสังเกตคือตัวขับเสียงชุดสลิมไลน์ของ KEF ชุดนี้ ได้นำไปใช้ในลำโพง T Series ทุกรุ่น

            T101 ลำโพงแซทเทิลไลท์ รูปทรงกะทัดรัดบางพิเศษ มีความหนาตู้เพียง 3.5 เซนติเมตรเท่านั้น เหมาะสำหรับใช้เป็นลำโพงเซอร์ราวด์เสียงรอบทิศ ตัวขับเสียงแหลมหรือทวีตเตอร์ และมิดเบสวูฟเฟอร์แบนบาง อย่างละหนึ่งตัว ที่ให้ประสิทธิภาพอย่างยอดเยี่ยม (ราคา 25,900.- บาท)

            T301c ลำโพงเซ็นเตอร์แชนแนล ระบบสองทางครึ่ง ใช้ตัวขับเสียงชุดเดียวกัน ด้วยทวีตเตอร์ ขนาด 25 มิลลิเมตร และวูฟเฟอร์ ขนาด 4.5 นิ้ว จำนวนสองตัว ออกแบบมาให้สมดุลกับ T301 ที่เป็นลำโพงคู่หน้าได้อย่างกลมกลืนทั้งดีไซน์และน้ำเสียง ถ้าสังเกตดู รุ่น T301c คือรุ่น T301 ที่ดีไซน์ในแนวนอนนั่นเอง (ราคา 17,900.- บาท)

            T2 ลำโพงแอคทีฟซับวูฟเฟอร์ทรงสลิม เข้าคู่กับชุดลำโพงหลัก T Series มีตัวขับเสียงต่ำที่ออกแบบใหม่ล่าสุดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 250 มิลลิเมตร หรือ 10 นิ้ว พร้อมแอมป์คลาส D กำลังขับ 250 วัตต์ ให้เสียงเบสที่เต็มอิ่มและกระชับสมจริง (ราคา 31,900.- บาท)

            เมื่อรวมกันทั้งชุดซิสเต็มลำโพง T205 ระบบ 5.1 แชนแนล (ราคา 109,900.- บาท) ทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อให้เข้าคู่กับทีวีจอแบน อย่าง LED TV หรือ OLED TV ในตลาดทุกแบรนด์และทุกโมเดล อย่างลงตัว

            ลำโพง T Series ออกแบบให้มีค่าความต้านทานของทุกรุ่นอยู่ที่ 8 โอห์ม จึงเหมาะที่จะนำมาจัดเป็นชุดซิสเต็มกับ T Series ด้วยกันเอง หรือใช้ร่วมกับลำโพง KEF ในซีรีส์อื่นๆ ได้อย่างลงตัว อาทิ Reference Series, Q Series, R Series หรือแม้แต่การใช้ลำโพงหลักเป็น LS50 Meta คุณก็สามารถนำเอาลำโพงแซทเทิลไลท์ ของ T Series ไปใช้งานร่วมกัน สำหรับแชนแนลเซอร์ราวด์ เซ็นเตอร์แชนแนล และซับวูฟเฟอร์  ได้อย่างกลมกลืน

           ทั้งนี้ขึ้นกับรูปแบบการใช้งานด้านเดคคอเรชั่น ของแต่ละห้องฟังเพราะดีไซน์ T Series ออกแบบมาให้มีบุคลิกเสียงเข้ากับลำโพง KEF อยู่แล้ว

            การออกแบบ T Series ถือเป็นการปฏิวัติแนวทางการออกแบบเพื่อไลฟ์สไตล์ยุคบ้านสมัยใหม่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นห้องในคอนโด หรือบ้านทั่วไปที่ต้องการความสวยงามควบคู่ไปกับคุณภาพเสียงอันดีเลิศ นี่คือทางเลือกใหม่ที่ยอดเยี่ยมมาก

Reference

– YAMAHA RX-A2080

– 65″ AU7002 UHD 4K Smart TV

– AudioQuest Rocket-44  Speaker Cable

– Clef HDMI -Z1 HDMI Cable

– Cardas Cross Interconnect Cables

Test Report

           สำหรับการทดสอบ KEF T205 Home Theatre Speaker System ชุดนี้ เมื่อเห็นรูปทรงลำโพง เราก็ค่อนข้างชอบดีไซน์แบนบาง ไปพร้อมๆ กับความกังวลน้อยๆ ว่า มันจะสนองตอบความถี่ และให้บุคลิกเสียงประการใด แต่ก็เชื่อมั่นว่า KEF จะสามารถพาเราหลุดออกนอกกรอบเดิมๆ ได้อย่างน่าพอใจเป็นแน่

           ผลสรุปที่ผมทดสอบออกมา ก็ขอบอกได้เลยว่า น่าประทับใจมากครับ

            ลำโพงแต่ละรุ่นในชุดจะมีขาตั้งสองแบบ แบบแรกขาตั้งแบบฐานวางขนาดเตี้ย เพื่อใช้วางลำโพงบนชั้นวาง คู่เคียงไปกับทีวีจอแบน หรือสับเปลี่ยนเป็นขาตั้งสูง สำหรับวางบนพื้นห้อง และหากต้องการติดตั้งบนผนังห้อง ก็สามารถใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับติดลำโพงเข้ากับผนังได้

            จากการทดสอบ ผมเน้นไปที่ขาตั้งฐานเตี้ยที่สามารถวางลำโพงบนชั้นวางคู่จอทีวี ขนาด65 นิ้วของผมได้อย่างลงตัว โดยทดสอบวาง T301 Satellite Speaker ให้ห่างจอด้านข้างมาเพียง 4 นิ้ว  ค่อยๆ ปรับระยะของลำโพงแซทเทิลไลท์คู่หน้า ให้ห่างผนังหลังของห้องออกมาเพียงครึ่งฟุต หรือต่ำกว่า โดยสังเกตความถี่ที่ลงตัวกับซับวูฟเฟอร์ T2 ให้เป็นเนื้อเดียวกัน (แต่ที่สุดคือการวางชิดผนังจะได้น้ำหนักเสียงดีที่สุด)

            ในแต่ละห้องอาจจะปรับระยะวางห่างผนังหลังต่างกันไป ยิ่งทำให้ลำโพงเมนหลัก เข้าใกล้ผนังมากขึ้นเท่าใด หรือติดกับผนังกำแพงห้อง ก็ควรที่จะเซ็ตค่า Bass Boost เพิ่มให้มากขึ้นเท่านั้น เพราะลำโพง T301 จะแสดงผลเสียงกลางต่ำมากขึ้น ตามระยะที่ประชิดกับผนังหลัง

           ในการทดสอบช่วงแรก ผมตั้งค่าซับวูฟเฟอร์ไว้ที่ 0 dB เพราะผมจัดระยะห่างผนังหลังห้องมา 6 นิ้ว จะได้ความกลมกลืนของย่านความถี่จากสูงสุดถึงต่ำสุดลงตัวพอดี ๆ

           และจากการทดสอบในหลายๆ ตำแหน่ง ผมมาลงตัวที่การจัดเอาลำโพง T301 วางประชิดติดผนังห้องไปเลย

            ข้อสังเกตเมื่อลำโพงแซทเทิลไลท์คู่หน้าติดผนัง ก็ต้องปรับค่าเบสบูสท์ ขึ้นมาที่ 6 dB จึงจะกลมกลืนลงตัวพอดิบพอดีครับ สำหรับที่ห้องดูหนังฟังเพลงของผม ส่วนท่านอื่นๆ อาจจะต้องทดลองปรับระยะดู ตามลักษณะห้องและการใช้งาน อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้

            นี่คือเทคนิคง่ายๆ ในการปรับลำโพง T301 Satellite Speaker เข้าหาตู้ T2 Subwoofer

           ถ้าถามว่า การวางหรือติดตั้ง เซ็ตอัพลำโพงแบบใดดีที่สุด?

            ก็ต้องบอกว่า การวางชิดติดผนังห้อง หรือห่างผนังออกมาเต็มที่ด้วยขาตั้งสูง ไม่ควรเกิน1 ฟุต น่าจะเหมาะสม หรือหากทำได้ให้ติดตั้งไว้บนผนังไปเลย เวทีเสียง น้ำหนักเสียงจะดีกว่าทุกตำแหน่ง (ยิ่งใกล้ผนังยิ่งเสียงทรงพลังดีเยี่ยม)

            ส่วนลำโพงเซอร์ราวด์ T101 เลือกปรับตั้งใกล้ๆ ผนัง โดยหันองศาเอียงเข้าหาตำแหน่งนั่งฟังและชมภาพยนตร์ ในแบบที่ Dolby Recommended เอาไว้ การวางชิดผนังช่วยให้ลำโพงT101 มีพลังเสียงและเวทีใหญ่ขึ้นใกล้เคียงกันกับ T301

           ลำโพง T301c ซึ่งเป็นลำโพงเซ็นเตอร์จัดวาง ระนาบด้านใต้จอทีวี และล้ำหน้าจอทีวีเล็กน้อย อาศัยการปรับค่า Level และค่าอื่นๆ ในพารามิเตอร์ ของรีซีฟเวอร์ ก็จะลงตัวเป็นเวทีเสียงเดียวกันอย่างดีเยี่ยม เช่นเดียวกันถ้าติดบนผนังใต้จอทีวี กรณีทีวีจอแบนบางได้แขวนบนผนังอยู่แล้ว ก็จะยิ่งได้การแผ่กระจายเสียงดียิ่งขึ้น

            ในการเซ็ตอัพซับวูฟเฟอร์ T2 อาจจะต้องพลิกตู้ขึ้นๆ ลงๆ นิดนึงในระหว่างการเซ็ตอัพ จนกว่าจะเป็นที่พอใจ เพราะฟังก์ชั่นปรับแต่งระดับเสียง และอื่นๆ นั้นได้ออกแบบซ่อนอยู่ด้านใต้ของตู้ซับ การวาง T2 แนะนำให้วางห่างผนังหลังของห้องออกมาประมาณ 50-100 เซ็นติเมตร จัดระยะให้สมดุลกับอคูสติกของห้อง ตรงนี้คุณจะต้องใช้เวลาบ้าง แต่หากได้เอวีรีซีพเวอร์ที่ทันสมัย ระบบปรับค่าแบบอัตโนมัติ จะช่วยให้เซ็ตอัพรวดเร็วยิ่งขึ้นครับ

           ต้องบอกว่า KEF T Series นั้น ได้ทำการออกแบบให้มีรูปทรงสวยงาม ด้วยไลฟสไตล์ยุคใหม่ ดังนั้นจึงมีการซ่อนแอบหรือแอบซ่อนจุดเชื่อมต่อของสายลำโพงแนบสนิทไว้ด้านหลังโดยเฉพาะในรุ่น T301 และ T101 เราก็จะพบว่ามีช่องเสียบสายลำโพงที่เหมาะกับขั้วบานาน่าปลั๊กเท่านั้น จึงต้องพิจารณาเรื่องขั้วต่อสายลำโพงที่เหมาะสมเอาไว้ล่วงหน้าครับ

            คุณภาพเสียง ต้องชื่นชมว่าเป็นอีกมิติหนึ่งของลำโพงประเภท Home Theatre Speaker System ที่ออกแบบมาลงตัวมาก เหมาะกับผู้ที่ดูหนังกับจอแบนบาง อย่างทีวี LED หรือ OLED เหมือนกับว่า มันได้ถูกออกแบบมาพร้อมกับทีวีประเภทนี้มาตั้งแต่แรก สามารถติดตั้งหรือจัดวางลำโพงให้กลมกลืนไปด้วยกัน ได้ทั้งความสวยงามจากสายตาและความงดงามจากเสียงที่ได้ยินครบทุกคุณสมบัติ

            เฉพาะลำโพงแซทเทิลไลท์ T301, เซ็นเตอร์ T301c และ T101 ให้เสียงที่ดีมาก ในแง่ความถี่สูงสุดที่ไล่เรียงลงมาจนถึงมิดเบส หรือเสียงช่วงต้นของเบส ลำโพงจะให้น้ำหนักและพลังไดนามิค เกินรูปทรงแบนบางของมันได้อย่างน่าทึ่ง ส่มารถแสดงมิติเสียงที่เข้มข้น และเมื่อจัดเป็นชุดแล้ว ความรู้สึกที่เป็นเวทีเสียงเดียวกัน จะราบรื่นลงตัว สมบูรณ์แบบ

            ตามแนวทางการดีไซน์ สิ่งที่จะขาดไปบ้างของลำโพงแซทเทิลไลท์ชุดนี้ คือความถี่ย่านเบสต่ำลึก ดังนั้นการใช้ซับวูฟเฟอร์ T2 ก็จะช่วยเติมเต็มได้อย่างพอดี ต้องถือว่า KEF ออกแบบมาได้ยอดเยี่ยมครับสำหรับระบบซับ – แซทเทิลไลท์ที่จับคู่กันแล้วทำงานได้สมดุลขนาดนี้

           ชุดลำโพง KEF T205 ให้เสียงได้กว้างลึก เต็มอิ่ม พลังเสียงเต็มที่ ให้ความรู้สึกที่มีชีวิตชีวา จากภาพยนตร์แอคชั่น ไปถึงดราม่า ทำได้ดีมากๆ และกับภาพยนตร์เพลง คอนเสิร์ต ความเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งชุด ทำให้คุณตกอยู่ในบรรยากาศที่สมจริงอย่างน่าทึ่ง

           ผมชอบตรงที่ดีไซน์แบนบางไม่ได้เป็นอุปสรรคในการส่งผ่านความถี่เสียงครบถ้วน ให้ศักยภาพเหมือนลำโพงขนาดใหญ่ของ KEF ซึ่งทำให้เรามั่นใจได้ว่า การนำเอา T Series แยกออกไปใช้งานกับลำโพงซีรีส์ต่างๆ ของ KEF สามารถทำได้อย่างไร้ปัญหา

           จุดเด่นคือลำโพงชุด KEF T205 Home Theatre Speaker System ให้คุณภาพเสียงอย่างมีชีวิตชีวา น้ำหนักเสียงโดดเด่นสมจริง สนองตอบในทุกสัญญาณเสียง และทุกความถี่อย่างฉับไว และเหนือไปยิ่งกว่านั้นคือ เป็นลำโพงไลฟ์สไตล์ ที่สง่างามด้วยดีไซน์บางเฉียบอย่างเหลือเชื่อเลยทีเดียว

หากใครสนใจและอยากเป็นเจ้าของเครื่องเสียงระดับคุณภาพสามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ผ่านตัวแทนจำหน่าย Vgadz Websitehttps://bit.ly/3HwxlN6 | FB : https://www.facebook.com/vgadz

หรือตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านคุณ

1. Audiomate

2. Piyanas Electric

3. บริษัท เอสพีเค ซาวด์ ซิสเต็มส์ จำกัด (สำนักงานใหญ่)

4. Dotlife

5. ร้านขอนแก่น ไฮ-ไฟ

6. Mercular

7. โรเบิท Robyrd | Alpha Audio

8. Bangkok Digital 

9. HD HiFi RAMA IX

10. Fullbright technology

11. SweetPig Audio

12. มั่นคง แกดเจ็ต

13. Soundproofbros

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here