Deepfake มหันตภัยทางไซเบอร์                       by: Tawatchai Meng

อาชญากรรมทางไซเบอร์นับวันจะกระจายในวงกว้างมากขึ้น และมีรูปแบบที่แนบเนียนจนยากที่ชาวบ้านทั่วๆไปจะสามารถแยกแยะได้อันไหนคือของจริง และอันไหนคือของปลอม ถ้าหากปัญหานี้ไม่ได้รับการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยมาตรการที่ชัดเจนแล้ว นอกจากมันจะกลายเป็นภัยทางสังคมแล้ว ยังถึงขั้นเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติเลยทีเดียว

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่พูดให้ฟังดูน่ากลัว ปัญหาทางสังคมพวกเราคงได้สัมผัสกันมาแล้วแน่นอน ทั้งการตัดต่อคลิปเสียง ตัดต่อภาพ หรือถึงขั้นสร้างภาพและเสียงปลอมขึ้นมา อย่างการเลือกตั้งในบราซิลและอินเดียเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็มีการให้ข้อมูลเท็จผ่านทาง WhatsApp และกระจายข้ามไปยังสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ อย่างกว้างขวาง สำหรับการกระทำเช่นนี้ สื่อตะวันตกมักจะพุ่งเป้าไปที่อิหร่าน และจีน (การเลือกตั้งสหรัฐครั้งที่แล้วพุ่งเป้าไปที่รัสเซีย)

กลับกลายเป็นว่า ประเทศแรกที่ขยับออกกฎระเบียบกำกับเรื่องนี้กลับกลายเป็นประเทศจีน โดยคณะกรรมการบริหารไซเบอร์สเปซของจีน (Cyberspace Administration of China (CAC)) ได้ประกาศว่า การใช้ปัญหาประดิษฐ์ (AI) หรือความจริงเสมือน (virtual reality) ใด ๆ จะต้องมีการกำกับไว้อย่างชัดเจน การไม่ปฏิบัติตามกฎอาจถือเป็นความผิดทางอาญา โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2020 นี้เป็นต้นไป

โดย CAC จะมุ่งเน้นปัญหาที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยี deepfake ซึ่งนำเอา AI ในการสร้างวิดีโอที่สมจริงจนยากที่แยกแยะออกได้อย่างการสร้างวิดีโอที่บุคคลกระทำหรือพูดทั้งที่เขาไม่ได้ทำเลย (ชมคลิป) เทคโนโลยี deepfake อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ทำลายความสงบสุขของสังคม และละเมิดสิทธิและผลประโยชน์ของผู้อื่น เพราะมันเป็นเทคโนโลยีชั้นสูงที่ยากที่จะพิสูจน์ได้ด้วยประสาทสัมผัสธรรมดาได้ และหากผู้บริโภคได้รับข้อมูลที่เขาไม่รู้ว่าเชื่อถือได้หรือไม่ ก็จะมีทางออกสองทางคือ หนึ่งเชื่อสิ่งที่เป็นเท็จว่าเป็นความจริง หรือไม่ยอมเชื่ออะไรเลยแม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม ถ้าเป็นเช่นนี้จริง ลองคิดดู เวลารัฐบาลมีนโยบายอะไรออกมาแต่ประชาชนไม่ยอมเชื่อ หรือผู้ไม่หวังดีทำข้อมูลเท็จขึ้นมาแต่ประชาชนเชื่อตาม ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร

ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เรียกร้องให้บรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั้งหมดให้ช่วยกันพัฒนาและแบ่งปันเครื่องมือตรวจสอบ deepfake เรื่องนี้ยังไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรมแต่กลับมี app ที่ใช้เทคโนโลยี deepfake แพร่หลายอย่างรวดเร็วและได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย

Dr. David Doermann ผู้อำนวยการสถาบันปัญญาประดิษฐ์มหาวิทยาลัยบัฟฟาโลกล่าวว่ามันอาจเป็นสงครามที่ไม่มีวันเอาชนะได้

ชมคลิป Deepfake Technology

ภาพจากอินเทอร์เน็ต

ส่งความเห็นที่ นิรนาม ยกเลิกการตอบ

Please enter your comment!
Please enter your name here