มนต์เสน่ห์ไฮไฟ ภาคที่ 1

OCTAVE JUBILEE 300B แอมปลิไฟร์หลอดสุญญากาศพลิกโฉมเทคโนโลยี

            บทความนี้ ประมวลทั้งเหตุและผล ทางเทคโนโลยี และประสบการณ์ในโลกไฮไฟ ที่ผมและทุกท่านรัก หลงใหลในความงดงามของการขยายเสียง การตอบสนองเสียงดนตรี ของลำโพงซึ่งจะทยอยเขียนเผยแพร่เป็นซีรีส์ อยู่อย่างสม่ำเสมอ

            ขอนำพาทุกท่านลงไปสัมผัสซึ่งรายละเอียดอันลึกซึ้งของผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงหลายหลากรูปแบบ โดยยืนพื้นที่ประสบการณ์จริงของผมเป็นสำคัญ ซึ่งจะขอเริ่มต้นด้วยแอมป์หลอด 300B ของ Octave เป็นประเดิม

            อันที่จริง ผมเล่นเครื่องเสียงขนานกันหลายรูปแบบ เพราะชอบศึกษาเรียนรู้คู่ไปกับความบันเทิงส่วนตัว และการเผยแพร่ในฐานะสื่อ ที่ต้องทดลองจับต้องอย่างจริงจัง ทั้ง วินเทจออดิโอ ยุค 40-50 ปี ที่แล้ว ที่เจ้าของสินค้า ลงมือออกแบบเอง ด้วยบุคลิกเฉพาะตัว

            เครื่องเสียงยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี ทั้งอนาล็อก ดิจิตอล และสตรีมมิ่งเพื่อความสะดวกสบายในการฟัง มันย่อมเป็นวิถีที่แตกต่าง และขนานกัน โดยไม่มีวันบรรจบกันได้

            ในแง่ของแอมป์หลอดสุญญากาศ นั้น ผมหลงใหลในแอมป์หลอดยุควินเทจ มากที่สุด แม้ว่าข้อเสียของมันคืออายุอานาม ค่อนข้างเก่า หาเครื่องที่สภาพดีๆ ยาก จึงยอม จมในวังวน ที่ต้องต่อสู้กับฮัม และ noise สัญญาณรบกวนอยู่ตลอด

            ที่ผ่านมาที่ฟัง เล่น มาอย่างช่ำชอง เช่น McIntosh mc 275 เวอร์ชั่นแรก และเวอร์ชั่นที่สอง ที่มีความอุ่นนิ่มและหนักแน่น Marantz Model 7, 8, 9 ในตำนาน ของ คุณซาอูล มาร้านทซ์ อันหวานใสละมุนละไม รวมถึง HH. Scott, Fisher, Sherwood, Luxman ที่หลายเครื่องเก็บไว้เป็นส่วนตัว สลับมาฟังทุกบ่อย เมื่อหวนถึงอารมณ์ดนตรีที่คนยุคเก่าเขาทำไว้

            เครื่องพวกนี้ ไม่แนะนำให้ใครลงมาเล่น ถ้าใจไม่รักจริง! เพราะ คุณเอาคนแก่มาเลี้ยง วันดี คืนร้าย มันเจ็บป่วยได้อย่างไม่บอกเหตุล่วงหน้า

            สำหรับอารมณ์หลอดสุญญากาศ ในยุคใหม่ ผมฟังแล้วชื่นชอบ ส่วนใหญ่ยังมีลักษณะ กึ่งร่วมสมัยที่ฟังเพลงได้หลากหลายขึ้น ซึ่งก็น่าประทับใจไม่น้อย เลยทีเดียว

            แต่ก็มีบางแบรนด์ บางรุ่นฟังแล้ว ผม มึนงง เพราะเป็นแอมป์หลอดที่ฟังแล้วบาดหูน่ารำคาญ ยิ่งกว่า แอมป์โซลิตสเตท เลย สงสัยว่า หูเราไม่ถึง หรือคนทำเค้าไม่เคยฟังดนตรีมาเลยในชีวิตนี้?

            ผู้ผลิตมักง่ายบางราย ไม่ใช่เห็นว่า คนยุคนี้หันมาสนใจหลอด ฉันก็ทำขึ้นมาบ้าง มันคงเป็นสูตรสำเร็จแบบนั้นคงไม่ได้ เพราะที่สุดมันจะถูกลืมหายไปในกาลเวลาเพราะเสียงมันไม่ได้ดีจริงดังกล่าวอ้าง

            แอมป์หลอดมันเป็นเทคโนโลยีเก่าแก่ มีความลึกลับอะไรหลายอย่าง ที่แม้แต่คนสมัยใหม่ ยังหาคำตอบได้ยาก 

            เอาแค่ว่า แม้ความเพี้ยนจะสูงกว่าโซลิตสเตท แต่ทำไมคนชอบฟังความรื่นรมย์จากมัน? เป็นสิ่งที่เครื่องมือ ยังหยั่งวัดทุกอย่างไม่ได้  หรือยังค้นไม่พบความลับนั่นเอง

            แอมป์หลอดในยุคหลัง นี้ ผมจึงยกย่อง Octave ให้เป็นสุดยอด ให้คำตอบอย่างมีเหตุผลเสมอมา

            ผมได้มีโอกาส ทดลองฟังแอมป์หลอดสุญญากาศ ของ แบรนด์เยอรมันนี Octave มาหลายรุ่น ตั้งแต่ V40SE, V70SE,  V80, V110SE รวมทั้งรุ่นเรือธงล่าสุด OCTAVE JUBILEE 300B ที่ในการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ ที่เหนือกว่าแอมปลิไฟร์หลอดทั้งหลายอย่างสิ้นเชิง มันเป็นเสียงที่บอกได้เลยว่า “เต็มไปด้วยอารมณ์ดนตรี” อย่างน่าหลงใหล

            การค้นพบ และการหาคำตอบที่อธิบายได้ ว่า เสียงดีของหลอดมาจากอะไร และก้าวข้ามอุปสรรคกันด้วยเทคนิคใด

            ผมสงสัยเสมอว่า ผู้ออกแบบ Octave แหกกฎเกณฑ์ เรื่อง สัญญาณรบกวน ฮัม และนอยซ์ อัตราสะวิง ของเสียง ได้อย่างไร เพราะแอมป์หลอดที่ผมชื่นชอบมาแต่ยุควินเทจ หนีพ้นเรื่องพวกนี้ แทบไม่ได้เลย

            ต้องยอมรับว่า แนวคิดที่อยู่เบื้องหลัง Octave นำทีมโดยคุณ Andreas Hofmann ที่เขามีความหลงใหลในเสียงเพลงที่มาพร้อมกับทัศนคติทางอิเล็กทรอนิคส์ที่ชาญฉลาด และความมุ่งมั่นที่สมบูรณ์แบบ คิดค้นนวัตกรรมทางเทคนิคที่ผลิตอย่างได้ผลยอดเยี่ยมมาใช้งาน

            หลายสิ่งที่ Octave นำเอาระบบอิเล็คทรอนิคส์มาควบคุม เพิ่มศักยภาพให้กับหลอดสุญญากาศ มันเป็นความน่าทึ่ง ส่งผลให้ Octave กลายเป็นแอมป์หลอด ที่เหนือชั้นกว่าใครๆ โดยการออกแบบ แอมป์หลอด ได้ให้ความสำคัญกับ Output Transformer ที่ผลิตขึ้นเองที่มีการปรับปรุง ตรวจสอบอย่างเข้มข้นจากโรงงานของ Octave ให้พ้นจากจุดอ่อนในอดีตอย่างสิ้นเชิง

          Octave ศึกษาเรื่องการใช้ Auto Bias ในแอมป์หลอดยุคหลังๆ ก็พบว่า มันยากที่จะควบคุมให้สมบูรณ์ได้ จึงใช้ระบบแมนนวล ที่ เราในฐานะผู้ใช้ สามารถรู้และปรับค่าไบแอสที่ถูกต้องได้เสมอ จากการแสดงผลบนหน้าดิสเพลย์  จึงทำให้เครื่องสมบูรณ์แบบ เป็นแอมป์หลอดที่ทนทาน ทำงานเที่ยงตรง อัตราสะวิงดีเยี่ยม เสียงอิ่มละมุนละไมและทรงพลัง ให้เร้นจ์ของเสียงกว้างขวางอย่างวิเศษยิ่ง

            มีหลายคนแอบถามผมเสมอว่า แล้วทาง Octave ผลิตตัวชาร์จพลังอย่าง black box ขึ้นมาทำไม มีประโยชน์แค่ไหนกัน?

            ก็ด้วยเหตุที่ลำโพงปัจจุบัน หลายรุ่นมีค่าความต้านทานสลับซับซ้อน มีสะวิงขึ้น หรือรูดลงจาก 32 ไปจนถึง 2 โอห์ม ได้โดยไม่มีการจำกัด ทุกอย่างขึ้นกับเสียงดนตรี ดังนั้น การเสริมโมดูล อย่าง black box สำหรับเพาเวอร์ซัพพลาย จะช่วยเสริมให้การ ทำงานของภาคเพาเวอร์ซัพพลายให้แม่นยำศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่างดีมาก

            และแล้วก็มาถึงเรื่องราวของ OCTAVE JUBILEE 300B ที่ผมอยากจะกล่าวถึงว่ามันให้อารมณ์ดนตรีอย่างสุดขั้ว อย่างไม่เคยได้ฟังมาก่อนเลย ในฐานะคนเล่นแอมป์หลอดมาอย่างยาวนาน ขอบอกว่าเป็น “ที่สุดของที่สุดจริงๆ”

            คราวนี้ถือเป็นการดีไซน์ที่หลุดทะลุมิติของแอมป์หลอด 300B เลยทีเดียว

            จุดเด่นที่สำคัญที่สุดของแอมป์หลอดรุ่นนี้คือ การใช้หลอด 300B ถึงสามหลอด ซึ่งปกติเรามักจะเห็นแค่ 1 หลอดในวงจร และมีกำลังขับเต็มที่แค่ 8 วัตต์สำหรับ single-ended pure class A

            แต่สำหรับ JUBILEE 300B กลับใช้ถึงสามหลอดขนานกัน เพื่อให้ได้กำลังขับถึง 30 วัตต์ แต่โจทย์ใหญ่ที่ท้าทายคือ ตัวจ่ายไฟ และระบบควบคุมความร้อนของหลอด เพราะจะทำให้เกิดการรบกวนและเสียงฮัมอย่างหนักขึ้นมาได้

            เนื่องจากการใช้สามหลอดนั้น เท่ากับว่ามันจะมีการรบกวนมากขึ้นถึงสามเท่า!

            นี่คือความแปลกพิสดาร ที่ยืนอยู่บนพื้นฐานวงจรเดิม ที่เราอดไม่ได้ที่ต้องย้อนกลับไปถามหาความจริง ว่าเขาออกแบบกันอย่างไร

            จากที่ผมเคยสนทนากับคุณ Andreas Hofmann เจ้าของและวิศวกร ของ Octave  นี่คือสิ่งที่เขาสรุป และเปิดเผยกับเรา ว่าเขาทะลุขีดจำกัดปัญหาในอดีตอย่างไร?

            JUBILEE 300B นั้นเป็นจุดมุ่งหมายของ Octave ในการออกแบบวงจรหลอด คือ ต้องพัฒนาแอมปลิไฟเออร์ 300B ให้มีพลังมากพอที่จะขับลำโพงคู่ใดๆ ก็ได้ โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนวงจรคลาสสิกของ 300B !

            อันที่จริง จึงไม่ใช่เรื่องของการเพิ่มกระแสไฟ เพื่อให้ได้พลังเพิ่มขึ้น แต่เป็นเรื่องของการจัดระบบให้ 300B มีการออกแบบที่สมบูรณ์แบบ เพื่อเพิ่มคุณภาพเสียงสำหรับเครื่องเสียงหลอดต่างหาก

            ด้วยเหตุนี้ หลักการของ Single-ended amplifier 300B ซึ่งสามารถให้ กำลังขับ output power 20-30วัตต์ โดยใช้หลอด power 3 หลอด ทำงานแบบ indirect parallel จึงได้ถือกำเนิดขึ้น

            หลักในการพิเคราะห์ อยู่ที่ปัญหาเบื้องต้นอันเกิดจากความร้อน “โดยตรง” ของระบบ Triodes ซึ่งมีเรื่องของสิ่งที่แตกต่างจาก indirectly heated tubes (เช่นหลอด KT88, KT120 และอื่นๆ)

            หลอด Triodes แบบ direct heated เหล่านั้นไม่สามารถทำงานต่อตรงแบบขนาน เพราะต้องการระบบควบคุมความร้อนอันซับซ้อน เพื่อเพิ่มกำลังขับ

            ปกติที่ผู้ออกแบบวงจรหลอดใช้กันอยู่คือระบบวงจร 50 Hz Ac heater voltage ย่อมทำให้เกิดเสียงฮัม และสัญญาณกวนจากกระแสไฟฟ้า ซึ่งมีผลต่อลำโพง

            ถึงจะใช้ DC heating เพื่อขจัดเสียงฮัม แต่ก็จะลดทอนศักยภาพด้านเสียงของ 300B ลงไปอย่างมากมาย

             เรามาดูวิธีแก้ปัญหาของ Octave กัน

            ทีมวิศวกรได้พัฒนา power generator 7Hz เพื่อจ่ายกระแสให้กับหลอดของ 300B แต่ละหลอด โดยแยกกันจ่ายอย่างเป็นอิสระคือ heating voltage ที่ 7Hz แบบpure sine wave

            ด้วยวิธีนี้ทำให้ สามารถต่อเชื่อมหลอดของ 300B หลายๆ หลอด แบบขนาน (parallel) ได้เป็นครั้งแรก (ในโลกก็ว่าได้)

            เสียงฮัมแผ่วๆ และเสียงกวนจากคลื่น RF (Radio Frequency) ที่เกิดจากคลื่นความถี่ จะถูกขจัดโดยสิ้นเชิง

            รวมทั้งความร้อนที่เกิดขึ้น และกระแส Voltage ระหว่างใช้งานจะถูกควบคุมด้วยอิเล็กโทรนิคส์อย่างแม่นยำ หมดปัญหาเรื่องความไม่สม่ำเสมอของเนื้อเสียง ซึ่งเกิดจากกระแสของ main voltage ที่ขึ้นๆ ลงๆ

            ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา จึงทำให้เครื่องเสียง 300B ของ Octave สามารถเปล่งศักยภาพอย่างเต็มที่ อย่างไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน

            หลอด 300B ย่อมทำงานภายใต้สภาวะที่สมบูรณ์แบบ และให้คุณภาพเสียงเต็มประสิทธิภาพ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้แอมปลิไฟเออร์นี้ ได้รับขนานนามว่าเป็น “ราชินี” แห่งเครื่องหลอด

            ดังนั้น  OCTAVE JUBILEE 300B จึงเป็นเสมือนตัวแทนของเทคโนโลยีด้านแอมปลิไฟเออร์ในกลุ่มไฮเอนด์ ซึ่งรวมทั้งความทันสมัย และการพัฒนาอย่างไม่มีการประนีประนอม

            ภาคแอมปลิไฟเออร์จึงให้เสียงอันชวนฟัง นุ่มนวล ให้รายละเอียดสูง ฉับไว และให้มิติอันกว้างขวางของ Triode ไม่เฉพาะในย่านความถี่ mid และ high

            เป็นครั้งแรกของแนวเสียงแบบหลอด ซึ่งให้ความยอดเยี่ยมของคุณภาพเสียงได้ตลอดทุกย่านความถี่

            JUBILEE 300B จึงก้าวขึ้นสู่เจนเนอเรชั่นใหม่ของเทคโนโลยี Single ended แอมปลิไฟเออร์ที่ไร้ขีดจำกัด

            ทุกท่านที่ได้ฟัง หรือเป็นเจ้าของ JUBILEE 300B ย่อมทราบได้ด้วยตนเอง เมื่อคุณได้ฟัง เพาเวอร์แอมป์ หลอดรุ่นนี้    

อะไรบ้างที่เป็นจุดเด่น ในฐานะราชินี ของแอมป์ 300B ในปัจจุบัน

– ให้กระแสไฟที่สม่ำเสมอ แทนกระแสไฟฟ้าที่ไม่แน่นอน

– สร้าง power generator สำหรับ Triple 7Hz heating voltage ด้วย pure sine wave

– มีระบบจัดการพลังงานสำหรับจ่ายไฟ และคุม heating voltage เพื่อยืดอายุการใช้งานของหลอดและแอมปลิไฟเออร์

 – มีระบบ Protection และ overload เพื่อปกป้องหลอดและแอมปลิไฟเออร์ ไม่ให้เสียหาย และทำงานผิดพลาด

 – สามารถปรับระดับ BIAS เพื่อให้สามารถใช้หลอด 300B ที่แตกต่าง : low, medium และ high (เทียบเท่ากับ 25mA, 50mA และ 70mA quiescent current per 300B)

 – มี BIAS meter เพื่อใช้ควบคุม output ของหลอดทั้ง 3 หลอด

 – มีจุด output terminals สำหรับลำโพง 4 โอห์ม และ 8 โอห์ม

 – สามารถเลือกออพชั่นให้มี Trigger / remote switching

            สุดท้ายนี้เป็นอรรถาธิบาย ถึงเหตุผลที่น่าทึ่งของของ JUBILEE 300B

            การที่ออคเทฟว์ แก้ไขด้วยการแยกภาคจ่ายไฟให้แก่แต่ละหลอด ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นมากของแอมป์หลอดชุดนี้ พร้อมกันนั้นก็สร้าง sine wave ให้ต่ำลงมาที่ 7Hz ซึ่งเป็นย่านความถี่ที่หูมนุษย์เราไม่ได้ยิน ดังนั้น เสียงที่เราได้ยินจากเครื่องเสียงนี้จึงไม่มีเสียงฮัมเกิดขึ้นใดๆทั้งสิ้น

            ต่อคำถามว่าเราสามารถสร้าง sine wave ที่สูงกว่าหรือต่ำกว่านี้ได้หรือไม่ ก็ต้องตอบว่าได้

            แต่การทำให้ต่ำกว่านั้นตัวภาคจ่ายไฟจะต้องใหญ่มาก แต่ถ้าจะให้สูงก็ต้องเกิน 20kHz แต่จากการทดสอบในหลายๆ ความถี่แล้ว จึงสรุปว่าตรง 7Hz น่าจะเป็นจุดเหมาะสมที่สุด

            ดังนั้นการออกแบบตัวแชสซีของออคเทฟว์ จึงออกแบบตามฟังก์ชั่นการใช้งานดังที่เห็น เป็นทาวเวอร์สูง ทั้งนี้เพื่อให้ตัววงจรกับเพาเวอร์ซัพพลายมีพื้นที่แยกห่างกันระดับหนึ่งเพื่อลดการรบกวน ความจริงจะออกแบบในแนวนอนก็ได้ แต่จะกินพื้นที่มากเกินไป

      JUBILEE 300B เป็นแอมป์ฯ รุ่นแรกของ Octave ที่ใช้หลอด 300B เนื่องจากคอนเซ็ปต์ของ Octave คือเป็นเครื่องเสียงกำลังขับสูงแต่ให้เสียงที่สงัดอย่างแท้จริง

            แต่ตลอด 25 ปีที่ผ่านมานั้นนักออกแบบอื่นๆ ยังหาวิธีขจัดของข้อจำกัดเรื่องนอยซ์ และเสียงฮัมไม่ได้

            สำหรับ Octave ต้องการรักษาบุคลิกความเป็น pure class A ของ 300B แต่ยังสามารถถ่ายทอดออกมาครบทุกย่านความถี่

            ดังนั้น JUBILEE 300B จึงมีความเป็น pure class A ที่สมบูรณ์แบบที่ปกติจะให้เสียงที่หวานในย่านเสียงกลางได้ดีเยี่ยมอยู่แล้ว

            อีกทั้ง JUBILEE 300B ยังสามารถขับเบสได้ลงลึกถึง 20Hz และให้เสียงแหลมได้สูงถึง 20kHz อีกด้วย ที่สำคัญคือสามารถนำหลอดยี่ห้อไหนมาใช้ก็ได้ ส่วนของOctave ที่ติดมากับเครื่องนั้นเป็นหลอดรัสเซีย ยี่ห้อ JJ เป็นหลัก มีการตรวจสอบคัดหลอดอย่างพิถีพิถันมีคุณภาพสูงและเชื่อถือได้ดีเยี่ยม

            ในการออกแบบ นั้น วิศวกรได้ทำการทดสอบหลอด ด้วยการใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง สองปีติดต่อกัน ถือว่าสามารถผ่านได้สบายๆ ไม่ว่าคุณจะนำไปใช้ขับลำโพงแบบใดๆ ก็ตาม

            ในรอบหลายสิบปีของการฟังแอมปลิไฟร์หลอดสุญญากาศของผม นี่คงเป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียง ซึ่งก้าวข้ามผ่านทุกสิ่งอย่างของอุปสรรคในแอมป์หลอดได้อย่างสิ้นเชิง ไร้ซึ่งเสียงรบกวนใดๆ ให้น้ำเสียงที่อ่อนละมุน รายละเอียดที่ครบถ้วน

            ไม่ว่าจะแผ่วเบาเพียงไรหรืออัตราการสวิง ไดนามิคเฉียบขาดสำหรับเพลงทุกประเภท ให้ความเป็นดนตรีที่เหนือชั้น และเป็นไฮเอนด์ในฉบับที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างแท้จริง

            หากได้ฟัง JUBILEE 300B เพียงครั้งเดียว ก็ยากนักที่จะลืมเลือนน้ำเสียงอันบริสุทธิ์สะอาดฮาร์โมนิกซึ่งสวยงามติดตรึงใจ ดังนั้นจึงขอคารวะ ต่อความยิ่งใหญ่ของราชินีหลอด OCTAVE JUBILEE 300B ไว้ ณ. ที่นี้ ครับ

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here