เขาเพิ่งบินมาถึงสุวรรณภูมิในช่วงเช้า และให้สัมภาษณ์ เดอะเวฟ ในช่วงบ่ายทันที สถานที่คือ เอลป้า ชอว์ อัมรินทร์พลาซ่า เราได้เก็บส่วนที่สำคัญมาฝากกัน ดังต่อไปนี้

The Wave: อยากให้พูดถึงความเป็นมาของลำโพง Dali

Pedersen: ครับ Dali มาจากความหมายที่ว่า Danish Audiophile Loudspeaker Industries และก็เป็นเช่นนั้น ชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดของลำโพง Dali ถูกออกแบบ และผลิตจากโรงงานของเราในเดนมาร์ก เราก่อตั้งเมื่อปี 1983 โดย Peter Lyngdorf ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเครื่องเสียงคุณภาพหลายแบรนด์

The Wave: ปัจจุบันคุณ Lyngdorf ยังมีบทบาทในบริษัทฯ หรือไม่?

Pedersen: เขายังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เขาเป็นผู้วางหลักคิด และปรัชญาในการออกแบบลำโพง นั่นคือ Low-loss Technology

The Wave: ที่ผ่านมาลำโพง Dali ขยายตัวด้านการตลาดอย่างไร?

Pedersen: จากเดิมลำโพง Dali มีจำหน่ายเฉพาะในกลุ่มสแกนดิเนเวีย เริ่มขยายตลาด Export อย่างจริงจังในปี 1992 ทุกวันนี้เรามีผลิตภัณฑ์ Dali วางจำหน่ายใน 75 ประเทศทั่วโลก

The Wave: ได้ทราบว่า คุณมีผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Dali ที่โดดเด่นน่าสนใจมาแนะนำ

Pedersen: ผมอยากแนะนำลำโพงในซีรีส์ CALLISTO เป็นลำโพง Active ระบบไร้สาย ทีมงาน Dali ออกแบบขึ้นเพื่อให้เข้ากับศตวรรษที่ 21 เพื่อการใช้งานในยุคดิจิตอล สามารถเล่นเพลง และสตรีมมิ่งไฟล์ Hi-res จาก Smart Devices หรือ Music Sever มายังลำโพงผ่านบลูทูธ

The Wave: นอกจากการใช้งานระบบไร้สายแล้ว CALLISTO ยังมีจุดเด่นอื่นหรือไม่?

Pedersen: ลำโพง Dali CALLISTO 6C เป็นลำโพงตั้งพื้นที่ขับเสียงทุกย่านความถี่ได้อย่างน่าฟัง ที่โดดเด่นคือ ด้านบนตู้ลำโพงมี Touch Sensitive Panel แผงควบคุมเสียงแบบสัมผัส คุณจึงปรับระดับเสียงดังมากน้อยได้ดังใจ เพียงใช้ปลายนิ้วสไลด์ที่บนตู้ลำโพง จึงสะดวกต่อการใช้งานในระบบไร้สาย เพราะสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลายประเภท

The Wave: แม้จะเข้าสู่ยุคดิจิตอล มีการเปลี่ยนบุคลิกของเสียง Dali หรือไม่?

Pedersen: เรายังคงบุคลิกเดิมของลำโพง Dali วูฟเวอร์ผลิตจาก Wood Fiber ให้การสมดุลของเสียงดีเยี่ยม ไดรเวอร์ตอบสนองเร็ว ไม่มีการสั่นค้าง สำหรับทวีตเตอร์ CALLISTO ใช้ Hybrid Tweeter ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ Dali โดยมีโดมทวีตเตอร์ทำงานร่วมกับ Ribbon Tweeter ได้เสียงความถี่สูงที่ชุ่มฉ่ำ กระจายเสียงแหลมสดใสเหนือเทคโนโลยีทวีตเตอร์แบบอื่นๆ ในตลาด

The Wave: ได้ทราบว่าปัจจุบัน Dali ได้ขยายตลาดไปยังผลิตภัณฑ์อื่นด้วย

Pedersen: ครับ เพื่อตอบสนองนักเล่นเครื่องเสียงในยุคดิจิตอล Dali จึงออกแบบผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อรองรับ เช่น หูฟัง Headphone แบบครอบหูของ Dali ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์เครื่องเสียง จากนิตยสารหลายฉบับ หูฟัง Dali IO (ไอโอ) ถูกออกแบบและผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ที่ใช้ในลำโพงไฮเอนด์ของ Dali ทุกชิ้นส่วนคัดเกรดเพื่อให้มีมาตรฐานสูงสุด ทั้งในด้านความสวยงาม ทนทาน ที่สำคัญคือคุณภาพเสียงยอดเยี่ยม มีสองรุ่น คือ IO-4 หูฟังไร้สาย แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 60 ชั่วโมง และรุ่น IO-6 ซึ่งเพิ่มเทคโนโลยี Noise Cancellation

The Wave: ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ต้องการแนะนำอีกไหม?

Pedersen: เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน Dali ยังมีผลิตภัณฑ์ Sound Bar ซึ่งเป็นระบบเสียงแบบ all-in-one ชื่อว่า KUBIK ONE แข็งแกร่งด้วยตัวตู้อลูมิเนียม ให้เสียงสเตริโอแท้ๆ ด้วยระบบไร้สายแบบบลูทูธ หรือจะเสียบต่อด้วย USB และสายอนาล็อค RCA จึงรับสัญญาณได้จากทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือ ทีวี

ผลิตภัณฑ์อีกอย่างที่ได้รับความนิยมมาก คือลำโพงแบบพกพา Dali KATCH Series ขนาดกะทัดรัดใหญ่กว่าฝ่ามือนิดเดียว แต่เสียงไพเราะอย่างน่าทึ่ง เลือกรับฟังเสียงได้ 2 รูปแบบ คือ “Clear” สำหรับดนตรีทั่วไป และ “Warm” เมื่อต้องการเสียงเบสที่หนักแน่นขึ้น อายุใช้งานแบตเตอรี่ คือ 24 ชั่วโมง เชื่อมต่อได้ทั้งแบบ บลูทูธ หรือจะเสียบต่อสัญญาณแบบอนาล็อคก็ได้

The Wave: ที่ผ่านมาชื่อของ Dali ยังไม่แพร่หลายโดยทั่วไป อยากให้คุณยืนยันความมั่นใจต่อลูกค้าในประเทศไทย

Pedersen: ครับ ความจริง Dali เป็นที่รู้จักในเมืองไทยมานาน ที่แล้วมาการตลาดบางช่วง อาจขาดความต่อเนื่องไปบ้าง แต่ในปัจจุบัน ภายใต้การดูแลของ Elpa Shaw ด้วยคุณภาพไฮเอนด์ในราคาสมเหตุสมผล และการรับประกันสินค้าถึง 3 ปีเต็ม และความพร้อมของคลังสินค้า เราจึงขอให้ความมั่นใจอย่างเต็มที่ สำหรับลูกค้าของ Dali ทุกๆ ท่าน

สนใจผลิตภัณฑ์ ของ DALI สามารถทดสอบฟัง หรือขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เอลป้า ชอว์ จำกัด อาคารอัมรินทร์พลาซ่า ชั้น 3 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร   

หมายเลขโทรศัพท์ 02-256-9683-5

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here