มู่หลาน

0
4238

มู่หลาน                                                                   by: Tawatchai Meng

ในประวัติศาสตร์จีนปรากฎวีรบุรุษ วีรสตรี ที่ไม่มีตำแหน่งทางราชการใดๆ หากแต่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาที่ใช้ความกล้าหาญ ความสามารถของตัวเองในการบันทึกประวัติศาสตร์ และหนี่งในนั้นก็คือ ฮวามู่หลาน หรือที่เราคนไทยมักจะเรียกกันสั้นๆว่า “มู่หลาน”

มู่หลานถือว่าเป็นบุคคลที่ลึกลับในทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากการบันทึกประวัติศาสตร์ที่ไม่ละเอียด แม้แต่ชื่อสกุล ถิ่นกำเนิดที่ชัดเจนก็ไม่มี จึงทำให้คนรุ่นหลังเดาไปต่างๆนานา บ้างก็ว่าเธอมีถิ่นกำเนิดที่เมืองซานชิว อำเภออวี๋เฉิง มณฑลเหอหนาน บ้างก็ว่าเธอเป็นคนอำเภอฮว๋างเปย มณฑลหูเป่ย และบ้างก็ว่าเธอเป็นคนเมืองเหยียนอาน มณฑลส่านซี (ทั้งสามมณฑลอยู่ติดกัน จึงเป็นไปได้ที่หากไม่มีการบันทึกประวัติศาสตร์ที่ชัดเจน)

สิ่งที่ทำให้มู่หลานเป็นที่รู้จักไปทั่วก็เนื่องจากบทกลอน “มู่หลาน” ที่บรรยายถึงมู่หลานกำลังกลัดกลุ้มเมื่อเห็นหมายเรียกบิดาเข้ากรมกองเพื่อเตรียมออกสนามรบ บทกลอนนี้เริ่มเป็นที่แพร่หลายในสมัยราชวงศ์เหนือ-ใต้ (南北朝-ปีค.ศ. 420-589) เรื่อยไปจนถึงสมัยสุยถาง (ค.ศ. 581-907) และชาวบ้านชาวช่องต่างท่องกันได้ขึ้นใจ ในขณะนั้น บิดาของมู่หลานอายุมากแล้ว หากออกรบอีกครั้งคงไปแล้วไม่มีวันกลับมาแน่ เธอไม่มีพี่ชาย มีเพียงน้องชายหนึ่งคนซึ่งยังเล็กอยู่ ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจออกรบแทนพ่อ

ตลอด 10 ปีในสนามรบนั้น เธอได้สร้างผลงานด้วยความกล้าหาญอย่างมากมายเหนือกว่าชายอกสามศก จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว แต่เหตุใดตลอด 10 ปีที่ออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารชายอกสามศอกจึงไม่มีใครสามารถล่วงรู้สถานะที่แท้จริงของเธอ

เรามาลองวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ แต่ก่อนอื่นเราต้องละทิ้งความเป็นยุคอินเทอร์เน็ตของเราทิ้งไปก่อนเพราะเป็นยุคที่ไม่มีความเป็นส่วนตัวเหลืออยู่ ไม่ว่าคุณไปไหนทำอะไรมีคนเฝ้าติดตามตลอด แต่จะต้องวิเคราะห์ตามสถานการณ์และบริบทของประวัติศาสตร์ในยุคสมัยนั้นซึ่งย้อนหลังกลับไป 1500 กว่าปีก่อนดังนี้

1 กฎเกณฑ์ในการคัดเลือกทหารต่ำ เนื่องจากตอนนี้ข้าศึกกำลังรุกรานตงง้วน (ที่ราบภาคกลาง) ทางราชสำนักจึงต้องรีบเร่งเกณฑ์ทหาร กฎเกณฑ์ก็ง่าย ๆ ขอเพียงเป็นผู้ชายอายุถึงเกณฑ์จะต้องเป็นทหารหมด จึงไม่มีใครสนใจว่าทหารคนนั้นจะเป็นใครไม่เหมือนสมัยนี้จะต้องถอดเสื้อตรวจ ยิ่งเมื่อมู่หลานสวนชุดทหารคลุมชุดเกราะเข้าไปด้วยแล้ว ยากที่ใครจะรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิง

2 รูปลักษณ์ภายนอก ในยุคเว่ยเหนือนั้น เป็นยุคที่เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง ผู้คนอดอยาก การมีชีวิตอยู่รอดได้ถือว่าบุญโขแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่จึงมีหน้าตาผอมแห้งซีดเซียว มู่หลานก็เช่นกัน ดังนั้น เมื่อสวมชุดทหารแล้วก็ยากที่จะแยกออกว่าเป็นชายหรือหญิง

3 ภารกิจ หน้าที่ในกองทัพของมู่หลานคือ การสืบข่าวและส่งสาร ตำแหน่งนี้แม้จะไม่สูงแต่ก็มีสถานะพิเศษ ดังนั้นในค่ายทหารจึงมีกระโจมเฉพาะของตัวเอง จึงทำให้เธอมีความเป็นอยู่ที่ส่วนตัว ไม่ต้องห่วงว่าช่วงไหนเธอจะมี”ประจำเดือน”

4 การวางตัว มู่หลานรู้ดีว่า ถ้าหากสถานะของเธอถูกเปิดเผย คนที่เดือดร้อนไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว มันหมายถึงถูกตัดหัวทั้งโคตร เพราะถือว่าเป็นการปิดบังราชสำนัก ดังนั้น เมื่ออยู่ในค่ายทหาร เธอจึงต้องระมัดระวังทุกฝีก้าวและรักษาระยะห่างกับคนอื่น ๆ เพื่อไม่ให้สถานะของตัวเองถูกเปิดเผย

หลังจากสงครามสงบแล้ว ด้วยผลงานอันโดดเด่นตลอดสิบปี ฮ่องเต้จึงคิดประทานรางวัลให้ เธอจึงจำเป็นต้องเปิดเผยสถานะที่แท้จริงเพราะไม่อาจปิดปังได้อีกต่อไป แต่ด้วยผลงานนั้นฮ่องเต้จึงอภัยโทษให้พร้อมกับปูนบำเหน็จตำแหน่งทางราชการให้ แต่เธออ้างว่าต้องดูและบิดามารดาที่แก่เฒ่า จึงปฏิเสธไปและใช้ชีวิตในชนบทใช้ชีวิตอย่างสงบ

ที่มา: Chaophraya Forum

ภาพจากอินเทอร์เนต

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here